วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:31 น.

การเมือง

อาจารย์อุ๋ย เตือน ! พรรคร่วม ฯ ระวังกอดคอกันถูกประหารชีวิต ! หากยังยื้อร่วมรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง

วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 09.40 น.

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. พกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า “ขออรรถาธิบายกฎหมายอาญาเสียหน่อย ไว้ลายอาจารย์สอนกฎหมาย คือตามปกติการ “พยายาม” กระทำความผิดจะรับโทษสองในสามของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สําหรับความผิดนั้น ส่วน การ“ตระเตรียมการ” บางกรณีก็ไม่มีความผิด หรือมีความผิดหากกฎหมายกําหนดให้เป็นความผิด เช่น ตระเตรียมการวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น แต่ทั้งสองกรณี ไม่ว่า พยายาม หรือ ตระเตรียมการ โทษจะเบากว่าการลงมือกระทําผิด เช่น โทษประหารชีวิต ก็เหลือจําคุกตลอดชีวิต
 
ส่วนการเป็น “ผู้สนับสนุน” นั้น โดยปกติกฎหมายจะบัญญัติให้รับโทษเพียงสองในสามส่วนของความผิดนั้น 
 
แต่บทบัญญัติในหมวดความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักรนี้ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงอย่นงยิ่ง เพราะเป็นการทุรยศต่อชาติและราชอาณาจักร กฎหมายจึงบัญญัติไว้เป็นพิเศษ ใน มาตรา 128 และ 129 ว่า แม้ว่าจะยังไม่ลงมือกระทำผิด เพียงแค่ พยายาม หรือตระเตรียมการ หรือเป็นเพียงผู้สนับสนุน ก็ต้องได้รับโทษเท่ากับการลงมือกระทำผิด แล้ว
 
ตัวอย่าง นางสาว อ. มีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศสารขัณฑ์ พูดตกลงเจรจากับนาย ฮ. ผู้นําอีกประเทศหนึ่งว่า ทหารของประเทศนางสาว อ. นั้น เป็นฝ่ายตรงข้ามกับตนเอง...แต่ไม่ต้องห่วง ฯลฯ หรือ หากลุง ฮ. ต้องการอะไร ให้ขอมาได้เลย ฯลฯ
 
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากบริบทเหตุการณ์ที่บทสนทนานี้เกิดขึ้นในขณะที่ทั้งสองประเทศกําลังมีการเจรจาเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนทางบกและทางทะเล และมีความสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดสงครามแย่งชิงดินแดนกัน ย่อมอนุมานได้ว่า นางสาว อ. ได้เริ่ม “ตระเตรียมการ” หรือ “พยายาม” ที่จะคบคิดกับ นาย ฮ. เพื่อประโยชน์ของ นาย ฮ. ซึ่งเป็นปรปักษ์กับประเทศสารขัณฑ์ ซึ่งอาจนําไปสู่การเสียดินแดนหรือการทำให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไปได้แล้ว 
 
นอกจากนี้ หากนางสาว อ. ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินอยู่ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าการบริหารราชการแผ่นดินของนางสาว อ. จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศสารขัณฑ์ หรือเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศของนาย ฮ. กันแน่ ?
 
ซึ่งหากสมมติว่านางสาว อ. บริหารราชการแผนดินอะไร ที่ต้องอาศัยมติคณะรัฐมนตรี แต่บังเอิญมีเจตนาซ่อนเร้นที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศของนาย ฮ. แต่เป็นปรปักษ์ต่อประเทศ สารขัณฑ์ หรือแม้กระทั่งนําไปสู่การเสียดินแดนของประเทศสารขัณฑ์ แม้ยังอยู่ในขั้น "ตระเตรียมการ" ก็ตาม ครม. ก็ต้องร่วมรับผิดกับนางสาว อ. ไปด้วย แม้เป็นเพียงผู้สนับสนุนก็ตาม ซึ่งมีโทษ สูงสุดคือ “ประหารชีวิต”
 
สรุป ผมจึงขอเตือนพรรคร่วมทั้งหลาย ให้เลือกเอาระหว่าง เก้าอี้ รมต. ที่จะได้เพิ่ม กับ เตียงฉีดสารพิษ เพื่อรับโทษประหารชีวิต หากไม่อยากนอนเตียงฉีดสารพิษ ก็รีบออกจากรัฐบาลซะ ด้วยความปรารถนาดี
 
 

หน้าแรก » การเมือง