เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 นายพิทักษ์เดช เดชเดโช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขกฎหมายประมง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประมงฉบับใหม่ โดยมีเป้าหมายในการแก้ไขและปรับปรุงกฎหมายเดิมให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของภาคประมงอย่างสมดุล

นายพิทักษ์เดช กล่าวว่า ในสมัย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความพยามจะผลักดันเพื่อแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ แต่เนื่องด้วยปิดสมัยประชุมสภาเสียก่อนจึงทำให้ตกไป ตนในฐานะที่เป็น สส.จึงได้ยื่นญัตติเพื่อแก้ไขกฎหมายประมงฉบับนี้ ตามแนวทางที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้วางไว้

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า กฎหมายประมงฉบับเดิมมีข้อกำหนดชัดเจนในการควบคุมการใช้อวนขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรในช่วงเวลากลางคืนทั่วทั้งทะเลไทย เพื่อป้องกันการจับสัตว์น้ำวัยอ่อนที่ยังไม่ถึงวัยขยายพันธุ์ ซึ่งถือเป็นการอนุรักษ์ระบบนิเวศและรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว 

ส่วนร่างกฎหมายใหม่ ได้มีการเสนอให้ขยายขอบเขต โดยให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้พิจารณาอนุญาต หรือ ห้ามใช้อวนขนาดเล็กในพื้นที่เขตเศรษฐกิจนอก 12 ไมล์ทะเล  โดยพิจารณาตามสถานการณ์จริงในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและการตอบสนองที่เหมาะสมต่อความเปลี่ยนแปลง

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนสนับสนุนมาตรการห้ามใช้อวนขนาดเล็กในเขตชายฝั่งทะเล 12 ไมล์  เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน ซึ่งมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำและส่งเสริมความยั่งยืนของอุตสาหกรรมประมงในระยะยาว

“การปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในเขตชายฝั่งทะเล จะช่วยให้ชาวประมงมีรายได้อย่างต่อเนื่องและลดผลกระทบต่อระบบนิเวศในอนาคต” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าว

นายพิทักษ์เดช กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่นอกเขต 12 ไมล์ พรรคประชาธิปัตย์เน้นย้ำว่าการใช้อำนาจของรัฐมนตรีต้องพิจารณาจาก สภาพความเป็นจริงและความจำเป็นเฉพาะพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการทำประมงอย่างเหมาะสม

“ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงแต่อยู่บนพื้นฐานของการอนุรักษ์ แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ให้ชาวประมงและชุมชนชายฝั่งในระยะยาว” นายพิทักษ์เดช กล่าวปิดท้าย