วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:30 น.

การเมือง

"ดร.มหานิยม" ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ที่มีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน

วันพุธ ที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2568, 13.08 น.

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุม 302 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ดร.นิยม เวชกามา หรือ "ดร.มหานิยม" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล) กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ที่มีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน (คณะที่ 1) พร้อมด้วย "นายอินทพร จั่นเอี่ยม" ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ กองพุทธศาสนสถาน และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
 
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก คณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ (ค.ก.ว) ได้มีคำสั่ง ที่ 1/2568 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ที่มีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน โดยมี ดร.นิยม เวชกามา เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ได้เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ที่มีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน (คณะที่ 1) ด้วย 

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล "รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย  "ดร.นิยม เวชกามา" หรือ "ดร.มหานิยม"  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนัก คณะที่ปรึกษารัฐมนตรี ร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ โดยมี "นายอินทพร จั่นเอี่ยม" และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ซึ่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ แต่งตั้งโดย "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เจตนารมณ์ก็เพื่อแก้ปัญหาวัดและที่พักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมาอันยาวนาน ทั้งวัดที่ไม่มีโฉนดและวัดที่มีที่ดินทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ จึงขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ไขปัญหาให้หมดไป

 “ในคณะกรรมการชุดใหญ่นี้จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 4 ชุด เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา คณะแรกมี ดร.นิยม เวชกามา  เป็นประธาน ซึ่งทั้ง 4 คณะต้องไปรวบรวมข้อมูล ข้อเสนอแนะให้กับคณะกรรมการชุดใหญ่ กรอบการทำงาน 60 วัน หากไม่พอขยายได้ และคณะกรรมการชุดใหญ่จะมีการประชุมเดือนละครั้ง” 

 ดร.นิยม เวชกามา กล่าวว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลโดย นายกฯแพทองธาร ชินวัตร และ อาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล" ได้หยิบปัญหาเรื่องที่ดินวัดให้เป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากมีคณะกรรมการจากหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมกันแก้ปัญหา และปัญหาที่ดินวัด เป็นนโยบาย 1 ใน 8 ข้อ ที่อาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล  ได้ประกาศเป็นนโยบาย เจตนารมณ์ที่จะทำงานให้กับคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา

"ปัญหาที่ดินวัดและที่พักสงฆ์มีนับหมื่นแห่ง บางแห่งวัดตั้งมาแล้วหลายสิบปียังไม่ได้รับโฉนด เพราะหน่วยงานรัฐบางแห่งไปประกาศทับซ้อนที่ของวัด เจ้าอาวาสแต่ก่อนท่านไม่ได้ทำโฉนดเอาไว้ วัดสร้างด้วยชุมชน คิดว่าคงไม่มีปัญหา ตอนหลังบางวัดรัฐประกาศกฎหมายออกมาไปทับที่วัด วัดก็ไม่มีทางออก หรือบางวัดตั้งอยู่ในเขตทหาร ที่กรมธนารักษ์ บ้านเรือนรอบข้างเจริญแล้วมีห้าง มีหมู่บ้านจัดสรรเต็มไปหมด วัดมีอุโบสถสร้างไว้หลายสิบล้าน พระท่านประกอบศาสนกิจไม่ได้ เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากทหารบ้าง ราชพัสดุบ้าง กรณีแบบนี้มีหลายแห่ง ดีใจที่ได้ทำเรื่องนี้ และต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และอาจารย์ชูศักดิ์ ที่ดำเนินการเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล" ดร.มหานิยม กล่าว

 ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม เปิดเผยว่าปัจจุบันวัดในประเทศไทยมีจำนวน 44,083 วัด พบว่าวัดตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐประมาณ 4,259 วัด ที่พักสงฆ์ยังไม่ได้เป็นวัดมีประมาณ 9,918 แห่ง ซึ่งจำแนกได้ทั้งพื้นที่สาธารณประโยชน์ พื่นที่ป่าสงวน อุทยาน นิคมสหกรณ์ ราชพัสดุ สปก.หรือแม้กระทั้งที่เขตพื้นที่ทหาร

ทั้งนี้ ประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐประกอบด้วย 4 คน  คือ  1. ดร.นิยม เวชกามา เป็นประธานคณะอนุกรรมการการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ที่มีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 2. นายธเนศ กิตติธเนศวร เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินของรัฐ แต่มีปัญหาการต่อใบอนุญาต 3.นายวัฒนา เตียงกูล เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ ที่ยังมิได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินของรัฐ และ 4. รศ.ยุทธพร อิสระชัย เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ ซึ่งมีที่ดินเป็นที่ตั้งทับซ้อนในที่ดินของรัฐ
 

หน้าแรก » การเมือง