การเมือง
ครม.อนุมัติ ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) เตรียมส่งสภาเห็นชอบ ยันกาสิโนมีเพียงแค่ 10%
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

“จิรายุ” เผย ครม.เห็นชอบ ร่าง พรบ.ธุรกิจสถานบันเทิงฯ ตามข้อเสนอของกฤษฎีกา พร้อมส่งสภาฯพิจารณาต่อไป ยืนยันเน้นลงทุน เพื่อการท่องเที่ยว เป็นหลัก “กาสิโน”ต้องไม่เกิน 10 % ของเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กทั้งหมด
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568
"นายกฯอิ๊งค์" ขออย่ามองแค่กาสิโนให้มองภาพรวมธุรกิจ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลง ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ร่างพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร Entertainment Complex โดยมีวัตถุประสงค์ สร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่ ไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาลหรือ การท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่ หรือMan made tourism โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็น โดยมีผู้ให้ความเห็นกว่า 80,000 ราย ซึ่ง 80% เห็นด้วย จากนั้นจะเสนอร่างดังกล่าวให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป โดย Entertainment Complex ไม่เท่ากับกาสิโนเพราะ มีกาสิโนอยู่ไม่เกิน 10% ขณะที่ 90% จะเป็นเรื่อง ฮอคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุ 50,000 คน indoor Stadium ขนาดใหญ่สวนน้ำ โรงแรม ร้านอาหาร ที่จะสร้างรายได้กว่า 119,000 ถึง 238,000 ล้านบาท คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อ ปี และมีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้นเกิดอาชีพใหม่ และทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากกาสิโน และธุรกิจอื่นเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ ที่สำคัญจะมีกฎหมายควบคุม เพื่อป้องกันติดการพนัน โดยจะกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีช่องทางอะไรอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องของ Entertainment ดังกล่าวว่าเรื่องกาสิโนเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น นายกฯ กล่าวว่า อยากจะบอกว่าจะมีอาชีพใหม่เกิดขึ้น เพราะใน Entertainment จะประกอบด้วยธุรกิจหลายอย่างเกิดการจ้างงาน ที่เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าหลายธุรกิจเข้าใจเรื่องนี้ เช่นสถานที่จัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ มีความจำเป็นอย่างมากและเท่าที่ฟังข้อมูลจากหลายกลุ่ม พบว่ามีการอยากเข้ามาจัดงานที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ แต่สถานที่ของเราใหญ่สุดก็ยังไม่พอรองรับ คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ทำให้หลายครั้งพลาดโอกาส ที่ดีไป ถ้าเราทำ Entertainment Complex ครบวงจร ก็จะเป็นสิ่งดี อยากให้มองในภาพใหญ่ไม่ใช่เจาะเฉพาะกาสิโน ให้คนเดินทาง มาท่องเที่ยวได้ทั้งปี
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะต้องผ่านที่ประชุมของรัฐสภา รวมถึงยังมีมิติของม็อบที่คัดค้านนายกจะเอาอยู่หรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ต้องอธิบายไปเรื่อยๆ ไม่อยากพูดว่าจัดการได้ทั้งหมด เรายินดีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดและพร้อมที่จะตอบ หากมีรายละเอียดอะไรที่อยากรู้เพิ่มเติมเราก็จะตอบ แล้วจะสื่อสารให้มากขึ้น
เมื่อถามย้ำว่า ที่ผ่านมาเคยคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องกาสิโนแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรีได้หันหน้าไปทางนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมกับบอกว่าให้คลังช่วยชี้แจงด้วย เมื่อถามย้ำว่า มีโอกาสคุยกับหัวหน้าพักร่วมรัฐบาลให้เคลียร์ หรือไม่สมาชิกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในสภาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยิ้มและหันหน้าไปทาง นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และตอบว่าคุยค่ะ คุยแล้ว และเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว และผายมือมาทางสื่อและกล่าวด้วยว่านี่แนะๆ จะให้มีรอยร้าวพรรคร่วมอีกแล้ว
เมื่อถามว่าในมิติของทางสภาได้คุยแล้วหรือยัง นายกกล่าวย้ำว่าคุยแล้ว ส่วนเรื่องรายละเอียดของสภาฯต้องให้สภาฯทำต่อไป เขาต้องไปคุยกันและอาจจะมีการแก้ให้เกิดความเหมาะสม ตอนนี้ผ่านไป หนึ่งขั้นก่อนและไม่ได้มีปัญหาอะไร รายการคุยเรื่องนี้เพราะเป็นการสร้างโอกาส ให้กับประเทศเรา ถ้าดูตัวเลขเศรษฐกิจ ที่ระบุว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเพิ่ม 5-10% รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12,000 ล้านบาท ถึง 39,000 ล้านบาทต่อปี และจะเก็บภาษีจากธุรกิจอื่น ประมาณ 8,000 ถึง 35,000 ล้านบาทต่อปี โดยภาษีเฉพาะกาสิโนขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี ตรงนี้เป็นโอกาสของประเทศที่แท้จริงอย่าไปโฟกัส แค่เรื่องเดียวแต่ทั้งหมดจะสร้างโอกาส ให้ประเทศ
เมื่อถามว่ามีการกำหนดกรอบวาระ ในชั้นสส.และสว.ว่าควรจะต้องเสร็จเมื่อไหร่หรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ยังไม่ได้วางไทม์ไลน์ชัดเจน ส่วนประเด็นเรื่องวงเงิน 50 ล้าน ของผู้ที่จะมาลงทุน ก็ต้องไปว่ากันในสภาฯ
ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 12 ประจำปี 2568 วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยมีหลักการและเหตุผล ดังนี้
เดิม ครม. มีมติ (13 ม.ค.68) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่จัดทำโดย กระทรวงการคลัง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไปนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ยังคงมีหลักการตามที่ ครม. อนุมัติไว้ แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น 4 ประเด็นหลักดังนี้ 1. กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน (เดิมกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรี) 2. เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของ คกก. นโยบาย ในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องเสนอ ครม. เช่น เสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อประกอบการ พิจารณาของ ครม. 3. แก้ไขกลไกการได้มาซึ่งผู้อำนวยการ โดยให้ คกก. นโยบายแต่งตั้ง (จากเดิม คกก. นโยบายแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ ครม.) 4. กำหนดกรอบนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่ คกก. นโยบายเสนอแนะต่อ ครม.อย่างน้อยต้องประกอบด้วย
* 1.การกำหนดจำนวนใบอนุญาต
* 2.พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร
* 3. หลักเกณฑ์การพิจารณาร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน
* 4. มาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
* 5.กำหนดเพิ่มเติมให้พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย
* 6. (กำหนดใหม่) ให้กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน โดยเฉพาะสถานที่จัดให้มีการเล่นพนันซึ่งจะต้องไม่เกินร้อยละ10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน
7. (กำหนดใหม่) กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงถือว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างและใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามประเภทธุรกิจที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีกาสิโนเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
8. (กำหนดใหม่) กำหนดให้ คกก. นโยบาย กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโนโดยต้องมี (8.1) การจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (8.2) ระบบควบคุมกาสิโน ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และ (8.3) มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน (เดิมไม่มี)
9. กำหนดให้บุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ คกก. บริหาร กำหนด (เดิมกำหนด ห้ามเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่ คกก. กำหนด)
10.(กำหนดใหม่) ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น หรือเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน (เดิมไม่มี).
11.เพิ่มเติมมาตรการปรับเป็นพินัย เช่น ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่สั่งให้ปฏิบัติข้อกำหนด และปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในกาสิโน
12.เพิ่มเติมลักษณะการกระทำความผิดที่จะได้รับโทษทางอาญา เช่น การจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในกาสิโน และกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนันหรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า พรบ.ฉบับนี้ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน มาแล้ว 3 ครั้ง ในช่วงที่ผ่านมา โดยครั้งที่ 4 ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 14 มี.ค. 2568 รวมเวลา 15 วันมีผู้แสดงความคิดเห็น 71,289 คน มีผู้เห็นด้วยร้อยละ 80 จำนวน 57,000 คน
ทั้งนี้ ได้นำความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมที่เน้นให้ความสำคัญกับการกำหนดโครงสร้างของกฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล การสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและการป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสังคม การกำหนดพื้นที่สถานที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้มีความเหมาะสม การกำหนดผู้รักษาการร่วมตามร่าง พ.ร.บ.ฯ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การพิจารณาความคุ้มค่าในการจัดตั้งสนง.กำกับสถานบันเทิงครบวงจร ความยืดหยุ่นในหน้าที่และอำนาจของ คกก. นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ความเหมาะสมขององค์ประกอบ คกก. บริหาร การบูรณาการประสานงานระหว่างหน่วยงาน และการสร้างการรับรู้ต่อสังคมในวงกว้างต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอ และ ให้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป เพื่อพิจารณาในวาระรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา และแปรญัตติภายในระยะเวลาที่สภาฯ กำหนด
โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนส่งเสริมในส่วนของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่จะส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศเป็นหลัก โดยจะไม่เน้นเรื่องกาสิโนที่มีอยู่เพียงแค่ 10% และจะดำเนินการตามพรบ. อย่างเคร่งครัด นายจิรายุ กล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "สส.เขต 1 สุราษฎร์" จับมือผู้สมัครนายกเล็กเมืองคนดี ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการอำนวยความสะดวกประชาชนหน้า รพ. 2 พ.ค. 2568
- กกต.เชิญชวนเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น 4 พฤษภาคม 2568 2 พ.ค. 2568
- "ร่มธรรม" ขอโอกาสร่วมเริ่มต้นใหม่ พัฒนา "ประชาธิปัตย์" ถอดบทเรียนเลือกตั้งซ่อม 2 พ.ค. 2568
- กกต.จัดกิจกรรม Big Day โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี 2 พ.ค. 2568
- "ทวี" เปิดโครงการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้ได้รับ ผลกระทบจากร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย 2 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ไทยภักดี"ประชุมใหญ่สามัญปี 2568 "หมอวรงค์" ชูธงนำ ปราบโกงต้องเพิ่มโทษประหาร 18:39 น.
- "ประเสริฐ" ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ "สุรินทร์" กำชับทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือฝนทิ้งช่วง ลดผลกระทบต่อประชาชน 18:35 น.
- “ประมวล” เช็คกรมศุลทันที! หลังชาวบ้านสับสนพบรถบรรทุกน้ำมันปาล์มที่ท่าเรือบางสะพานเผยเป็นการส่งออกไปอินเดีย ไม่ใช่นำเข้าให้กระทบราคา 17:35 น.
- "รทสช." ปลื้ม สส.ลงพื้นที่ได้กำลังใจล้นหลาม ชาวบ้านแห่ชม "พีระพันธุ์" ลดค่าไฟต่อเนื่อง ผ่อนคลายค่าครองชีพ ลดความเดือดร้อนครัวเรือน 16:52 น.
- "ทักษิณ" เดินหน้าจัดองคาพยพ ดันสันติสุขชายแดนใต้ ลั่นปีนี้ต้องเห็นผล 15:29 น.