"ดร.มหานิยม" เข้ากราบนมัสการ "พระธรรมกิตติเมธี" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสสนทนาธรรมเรื่องบ้านเมือง หนุน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ชี้แม้ขัดหลักพุทธแต่เป็นการจัดระเบียบสังคม  

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568  นายนิยม  เวชกามา หรือ "ดร.มหานิยม" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์  ศิรินิล) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายน  2568   เวลา 17.00-20.30 น.   พร้อมคณะทำงาน เข้ากราบนมัสการท่านเจ้าคุณพระธรรมกิตติเมธี (เกษม สญฺญโต) ป.ธ.9 Ph.D. ดร.)ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชาธิวาสวิหาร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 16 17 18 ธรรมยุต อดีตประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ 
 
โดยมีนายเสถียร วิพรมหา นายกสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร)  นายณัฐ  รุ่งวงศ์ นายกสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อุปนายกและที่ปรึกษา นายประสิทธิ์ บุตรศรี นายจำนง จันทึก  (ปธ.9)  นายพีรพัฒน์ รัตนเศรณี ที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่า มมร ได้เข้าร่วมกราบนมัสการพร้อมสรงน้ำสงกรานต์และสนทนาธรรมถึงสถานการณ์ของบ้านเมืองด้วย

นายนิยม กล่าวว่า  พระธรรมกิตติเมธีเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่เข้าใจสถานการณ์ นวัตกรรมใหม่ใหม่ในการบริหารบ้านเมืองยุคปัจจุบัน มีทัศนะต่อกระแสการคัดค้านกาสิโนของรัฐบาล ในวงสนทนามีทั้งเรื่องเก่าเล่าความหลังของศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และที่มาของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นแกนกลางในการบริหารจัดการพระพุทธศาสนาทั้งระบบ แต่ไม่เคยพบว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดงานรดน้ำดำหัวพระมหาเถระให้ปรากฏต่อสายตาประชาชน แม้แต่ครั้งเดียว หรือผู้บริหารมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาก็อาจเป็นได้ ณะที่ราชการประกาศให้เป็นวันหยุดยาว อันแสดงถึงความสำคัญและเกี่ยวพันกับพระพุทธศาสนายากที่จะปฏิเสธได้ 
 
"เฉกเช่นการพนัน การค้าประเวณี และการดื่มสุรายาเมา จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องขัดกับหลักคำสอนพระพุทธศาสนา เพราะค้านกับหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา เป็นอบายมุขพระพุทธเจ้าสอนไว้ชัดเจนมีในพระไตรปิฎก แต่คนชาวพุทธเราก็ไม่สามารถทำได้ตามคำสอนทุกคน พระพุทธเจ้าท่านสอนให้คนทำเอาท่านทำให้ไม่ได้เพราะฉะนั้น พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์ฯก็เป็นการจัดระเบียบสังคมอย่างหนึ่งส่วนหนึ่งคือเป็นการเอาการพนันที่อยู่ในใต้ดินกันทั่วไม่ว่าในกรุงเทพฯในต่างจังหวัดการจัดกรอบจัดระเบียบให้คนที่ชอบแบบนั้นก็เดินทางไปกรรมใครกรรมมัน"

 "อาตมาไม่คัดค้านดีเสียอีกที่ออกกฏหมายมาควบคุมไม่ปล่อยให้เล่นใต้ดินแบบทุกวันนี้เงินทองซึ่งเป็นภาษีก็จะนำมาพัฒนาประเทศชาติได้ไม่ว่ารัฐบาลไหนไม่สามารถห้ามคนเล่นการพนันได้เพราะนั้นจึงมีบ่อนเถื่อนเต็มไปหมด แล้วทำไมไม่จัดให้เป็นระเบียบให้จัดเป็นโซนไปเลย"

พระธรรมกิตติเมธี กล่าวอีกว่า เรื่องการพนัน การค้าประเวณี และการดื่มสุรา เป็นอบายมุข 4 เหล่านี้มีมาก่อนพระพุทธเจ้าอีก จะแก้ให้หายขาดจากโลกนี้คงเป็นไปได้ยาก แต่ขอฝากผู้ช่วยรัฐมนตรี ดร.นิยม สื่อถึงรัฐบาล ให้มีมาตรการที่รัดกุม หากจะให้มีต้องคุมให้อยู่จัดระเบียบให้เป็นระบบ ให้เป็นกรอบชัดเจน ย่อมดีกว่าการปล่อยปละละเลย ปล่อยให้มีบ่อนเถื่อน มีการเก็บส่วยเข้ากระเป๋าของใครไม่รู้ อย่ากระแดะว่าไม่มี เขารู้กันทั้งประเทศ  

 "อาตมาเป็นพระไม่อยากพูดมากกว่านี้ เอาขึ้นมาบนดินเก็บภาษีถูกต้องมาพัฒนาประเทศ นำเงินรายได้ ไปให้เด็กๆยากจนได้เรียนในระดับสูงขึ้น"

 "ในช่วงเวลาปีใหม่ไทยขออวยพรให้รัฐบาลชุดนี้ อยู่ครบเทอม 4 ปี จะได้นำนโยบายมาพัฒนาประเทศ นำความสุขมาให้ประชาชน เจริญพร"