วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 14:51 น.

การเมือง

"สรวงศ์"  ลั่น" หัวหน้าบอกจบก็คือจบ​ ปม" ไชยชนก​" เผยสัญญาโมโตจีพีได้ไปต่อ หนุนเอกชนร่วมขับเคลื่อน

วันศุกร์ ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568, 11.44 น.

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568   นายสรวงศ์​ เทียนทอง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีย์รัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาไม่เห็นด้วยดับกาสิโน​ ว่า​ อย่างที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูลล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพูด ว่าเป็นความเห็นส่วนตัว ของนายไชยชนก และจะมีการพูดกันภายในพรรคภูมิใจไทย ซึ่งให้ทางพรรคเขาพูดคุยกันเอง ซึ่งก็สบายใจที่นายอนุทิน ออกมาพูดว่าสิ่งที่นายไชยชนกพูดไม่ใช่มติพรรค เพราะแม้จะเป็นเลขาธิการพรรคก็ยังเป็นรองกว่าหัวหน้าพรรค และตนเองฟังหัวหน้าพรรค

นายสรวงศ์​ ระบุว่า การพูดในสภาเป็นเอกสิทธิ์ของสส. และสิ่งที่นายไชยชนกพูด ก็เป็นประโยชน์ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ แต่ท่านอาจมีความกดดัน หรือเป็นความคิดส่วนตัว ที่ไม่สนับสนุน แต่อย่างที่บอกต้องมีการพูดคุยกัน

ส่วนจะต้องมีการยื่นคำขาดไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ระบุว่า การอยู่ร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างพรรค​การเมือง​ ความคิดอาจไม่ได้ เห็นเหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ต้องมีการพูดคุยกัน และไปในแนวทางเดียวกัน

ส่วนที่สมาชิกพรรคบางคนในพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายสรวงศ์​ กล่าวว่าไม่หรอก การอยู่ร่วมกันต้องคุยกัน​ อย่างบางท่านก็อาจจะมีความคิดเห็นว่า เมื่อไม่อยากอยู่ก็ออกไปเลย แต่ด้วยเสถียรภาพของรัฐบาล อย่างไรเราก็ต้องอยู่ด้วยกัน ก่อนย้ำว่าจะต้องมีการพูดคุยกันมากกว่า

เมื่อถามอีกว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทย เมื่อพรรคภูมิใจไทยขอโทษ แล้วถือว่าจบหรือไม่ นายสรวงศ์​ กล่าวว่า​  ท่านหัวหน้าบอกจบ​ ก็คือจบ​

ผู้สื่อข่าว ถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย จะจับมือกันยาวๆ หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า "ถ้าอย่างที่นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้สัมภาษณ์ร่วมกันก็ใช่ครับ" 

ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ทั้งนายพิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ และนายพิชัย​ นริพทะพันธุ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายสรวงศ์​ กล่าวย้ำว่าต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะปรับครม.ตนไม่ทราบ

 เผยคืบหน้าต่อสัญญาโมโตจีพี อยากให้เอกชนช่วยรัฐฯ 

นายสรวงศ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยการต่อสัญญาเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเลียบชิงแชมป์โลก  หรือ โมโตจีพีกับบริษัท ดอร์น่า สปอร์ตว่า เรื่องนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งรัฐบาลอยากให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่านี้ เนื่องจากการเป็นกีฬาอาชีพ ซึ่งเมื่อรัฐฯ ช่วยตั้งไข่ขึ้นมา และจัดมา 7 ปีแล้ว ก็อยากให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยเมื่อดูจากตัวเลขยอดผู้ชม และเม็ดเงินที่ทำได้ในช่วงแข่งขันโมโตจีพี มองว่า ถ้าภาคเอกชวนมีส่วนร่วมมากกว่านี้รัฐฯ ไปได้แน่นอน แต่ทั้งหมดอยากให้เกิดขึ้น แต่รัฐฯ ต้องจ่ายเงินน้อยลงกว่านี้

ส่วนที่มีการมองเรื่องนี้เชื่อมโยงกับการเมืองนั้น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะการเมืองคือ การเมือง อย่านำไปปนกัน และกีฬาคือ กีฬา สิ่งที่เป็นอีเวนต์ลักษณะนี้เหมือนกับที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พูดว่า สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็แล้วแต่ พูดง่าย ๆ ไทยเป็นลูกค้าเก่าจะต่อสัญญาก็ต้องคุยกันว่า มีอะไรบ้าง มีอะไรที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับคนไทยบ้าง ค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นปีละ 5% ซึ่งรัฐฯ ต้องไปต่อรอง

ทั้งนี้นายสวรวงศ์ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปต่อรองกับกฎหมาย “กาสิโน” ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และขอร้องว่า ให้เลิกพูดกฎหมาย “กาสิโน” เพราะความจริงคือ เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งขอให้ดูที่ 90% อย่าดูที่ 10% เพราะรัฐบาลออกกฎหมาย เพื่อรองรับนักลงทุนที่จะเข้ามา เพื่อให้นักลงทุนสนใจ

นายสรวงศ์ กล่าวด้วยว่า โมโตจีพีจะต้องมาก่อน F1 เพราะ F1 อยู่ระหว่างทำ MOU ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง F1 กำลังมองหา street circuit ซึ่งจากประสบการณ์ของ F1 ที่มีการพูดคุยกันที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศ และบริษัท F1 เอง ก็ต้องเป็น street circuit เพราะการแข่งในสนามเมื่อแข่งเสร็จก็จบ ไม่ได้มีกิจกรรมต่อ

พร้อมยืนยันว่า การพูดคุยกับ F1 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งจะมีการขยับเวลาไปเป็นปี 2028
 

หน้าแรก » การเมือง