วันอาทิตย์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:53 น.

การเมือง

ปลัด พม. ถวายประกาศนียบัตรแด่พระภิกษุ ฝึกอบรบเพิ่มทักษะพระธรรมทูต จัดบริการสวัสดิการสังคม พัฒนาสังคมไทยในต่างประเทศ

วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568, 16.45 น.

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ที่อาคารสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธัมมธรมหาเถระ) วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร  เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นายอนุกล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า วันนี้ (19 เม.ย. 68) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) จัดพิธีปัจฉิมนิเทศ ผู้สำเร็จการฝึกอบรมพระธรรมทูต รุ่นที่ 31/2568 เป็นการดำเนินงานตามมติมหาเถรสมาคม มติที่ 473/2566 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 66 ซึ่งอนุเคราะห์ให้วัดไทยทั่วโลกเป็นสถานที่ประสานงานในการรับเรื่อง ให้คำแนะนำปรึกษาเบื้องต้น ประสานส่งต่อกระทรวง พม. และติดตามรายงานผล อีกทั้งกำหนดให้จัดทำหลักสูตรตลอดจนจัดอบรมแด่พระธรรมทูตไปต่างประเทศ/เตรียมตัวไปต่างประเทศ อีกทั้งกระทรวง พม. ได้ร่วมกับสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ จัดทำหลักสูตรและได้รับความเห็นชอบจากสำนักฝึกอบรมฯ ให้บูรณาการเนื้อหาและจัดการเรียนการสอนร่วมกับการจัดอบรมหลักสูตรแกนกลางของสำนักฝึกอบรมฯ รุ่นที่ 31/2568 โดยเป็นหลักสูตรระยะสั้น  “เพิ่มทักษะพระธรรมทูต จัดบริการสวัสดิการสังคม พัฒนาสังคมไทยในต่างประเทศ” มีเนื้อหาสำคัญ ประกอบด้วย องค์ความรู้เชิงปฏิบัติการด้านการจัดบริการสวัสดิการสังคมในต่างประเทศ  จำนวน 5 รายวิชาๆ ละ 3 ชั่วโมง รวม 15 ชั่วโมง รวมถึงกระทรวง พม.ได้ร่วมระดมทุนจากภาคธุรกิจเอกชน (คุณศิรินี  กันทา) สมทบค่าใช้จ่ายที่เบิกจ่ายไม่ได้เป็นค่าธรรมเนียมการเดินทางไปศึกษาดูงานประเทศอินเดีย-เนปาล ให้แก่พระภิกษุผู้เข้ารับการอบรม 12 รายจาก 42 ราย 

นายอนุกูล กล่าวว่า พระเดชพระคุณ พระพรหมมุนี เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม กรรมการบริหารสำนักฝึกอบรมฯ เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และคณะกรรมการสำนักฝึกอบรมฯ  เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรแด่พระภิกษุที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) และ ตนเป็นประธานในพิธีถวายประกาศนียบัตรแด่พระภิกษุผู้สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรเพิ่มทักษะพระธรรมทูตด้านการจัดบริการสวัสดิการสังคมและการพัฒนาสังคมไทยในต่างประเทศ รุ่นที่ 31/2568 พร้อมกล่าวถวายมุทิตาแด่พระภิกษุที่ผ่านการฝึกอบรม 42 รูป  ในโอกาสนี้ ได้มอบหมาย นายกิตติ  อินทรกุล รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้แทนกระทรวง พม. รับโล่ประกาศเกียรติคุณผู้อุปถัมภ์โครงการฯ

นายอนุกูล กล่าวว่า ในนามกระทรวง พม. ขอกราบขอบพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานกรรมการบริหารสำนักฝึกอบรมฯ เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และคณะกรรมการสำนักฝึกอบรมฯ ที่ได้เห็นชอบหลักสูตรดังกล่าว และให้โอกาสกระทรวง พม. ร่วมกับสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ จัดอบรมหลักสูตรฯ ในครั้งนี้ รวมทั้งร่วมกับ คุณศิริณี กันทา กรรมการผู้จัดการบริษัท เอลโม เทค จำกัด ถวายค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่มีงบประมาณรองรับสำหรับการศึกษาดูงานต่างประเทศ (ประเทศอินเดีย - เนปาล) 

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม.  ได้ขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญ (Flagship projects) 9 ด้าน ซึ่งต่อยอดขยายผลจากนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร สำหรับพันธกิจสำคัญด้านที่ 5 สร้างหุ้นส่วนทางสังคมสู่สวัสดิการที่ยั่งยืน นั้น มุ่งสร้างต้นแบบการจัดสวัสดิการสังคมร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 68  กระทรวง พม. มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการดำเนินงาน “โครงการเสริมพลังวัดพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง” ร่วมกับฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง รวมถึงสนับสนุนให้คณะสงฆ์ เป็นกลไกหลักในการสื่อสาร อบรม เผยแพร่ความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม  

ขณะนี้ มีวัดต้นแบบนำร่อง 2 แห่ง ได้แก่ วัดหัวฝาย จังหวัดเชียงราย  โดยพระครูปิยวรรณพิพัฒน์ ท่านเจ้าอาวาส และวัดถ้ำตะโก จังหวัดลพบุรี โดยพระครูสมุห์พรเทพ จันทโชโต ท่านเจ้าอาวาส ซึ่งได้ดำเนินการดูแลคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ อาทิ การอบรมแกนนำเด็กและเยาวชน การส่งเสริมอาชีพแก่สตรีและครอบครัว การจัด Day Care สำหรับคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแล การขับเคลื่อนโรงเรียนผู้สูงอายุ และคลังปัญญาผู้สูงอายุในตำบล การจัดให้วัดที่เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และบ้านกลางสำหรับคนไร้ที่พึ่ง 

นอกจากนี้ กระทรวง พม. ได้มอบหมายหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ในพื้นที่ระดับจังหวัด เข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือกับศูนย์ประสานงานสาธารณสงเคราะห์ประจำจังหวัด วัด และพระสงฆ์ ในมิติของการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้ได้วัดต้นแบบนำร่องในการสร้างหุ้นส่วนทางสังคมสู่สวัสดิการที่ยั่งยืน 

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง พม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พระภิกษุที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จะได้รับความรู้ ความเข้าใจ และนำไปใช้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสงเคราะห์ โดยเฉพาะเมื่อมีโอกาสไปปฏิบัติหน้าที่พระธรรมทูตในต่างประเทศ จะมีความพร้อมในการดำเนินงานตามมติมหาเถรสมาคมในการอนุเคราะห์ให้วัดไทยในต่างประเทศ เป็นสถานที่รวมจิตใจคนไทย เป็นสถานที่ติดต่อประสานงาน เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำ รับเรื่อง ประสานส่งต่อร่วมกับกระทรวง พม. รวมถึงการติดตาม และรายงานผลการดำเนินงาน เพื่อการช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ ตามกรอบภารกิจกระทรวง พม. และแนวทางที่กำหนดร่วมกัน 

"ในระยะต่อไป กระทรวง พม. จะส่งมอบหลักสูตรดังกล่าว พร้อมทั้งเนื้อหาและสื่อการเรียนการสอน เพื่อสำนักฝึกอบรมฯ สามารถนำไปใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนในระยะยาว และขอปวารณาว่ากระทรวง พม. มีความพร้อมในการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน พร้อมทั้งนิเทศ ติดตาม และร่วมปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสังคมไทยในต่างประเทศ ร่วมกับพระธรรมทูตในต่างประเทศ ในโอกาสนี้ กระทรวง พม. ขอถวายมุทิตาจิตแด่พระภิกษุทุกรูปที่สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรฯ ครั้งนี้ และเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดพระพุทธศาสนา การพัฒนาประเทศไทย และการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมกันสืบต่อไป" นายอนุกูล กล่าว 

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5x5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #พระธรรมทูต #วัด

หน้าแรก » การเมือง