เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568  จากกรณีที่คนร้ายกราดยิงรถยนต์นำพระภิกษุ-สามเณร 6 รูปออกบิณฑบาตรในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย ทำให้สามเณรที่บวชในภาคฤดูร้อนมรณภาพและบาดเจ็บนั้น 

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า "อ่านข่าว ตำรวจคุ้มครองพระและสามเณรออกบิณฑบาต ถูกกลุ่มคนร้ายลอบยิงสามเณรเสียชีวิต ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือพ่อของสามเณรที่เป็นนายตำรวจก็อยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย

"สามเณรบวชภาคฤดูร้อน กำลังจะสึกในวันรุ่งขึ้น ที่ผมเสียใจอีกประการหนึ่ง คือ บุตรแห่งพระตถาคตถูกยิงเสียชีวิตท่าน ส.ส.และท่าน ส.ว.ผู้ทรงเกียรติ ของจังหวัดสงขลา ไม่ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้เลย" นั้น

ล่าสุด พรรคประชาชน (ปชน.) จังหวัดสงขลา ออกแถลงการณ์เรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ช่วงตั้งวันที่ 18-22 เม.ย. 2568 ส่งผลให้สามเณรที่อยู่ระหว่างการบรรพชาในช่วงปิดภาคเรียนมรณภาพ 1 รูป และได้รับบาดเจ็บอีก 1 รูป

โดยแถลงการณ์ระบุตอนหนึ่งว่า พรรคประชาชนจังหวัดสงขลา ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย และไม่เห็นด้วยกับการกระทำอันโหดร้าย และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบอย่างถึงที่สุด เหตุการณ์ครั้งนี้มิใช่เพียงเหตุการณ์ที่แยกขาดกับสถานการณ์โดยภาพรวม หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มความรุนแรงที่ทวีความถี่และความรุนแรงมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทุกฝ่ายควรตระหนักและร่วมกันเฝ้าระวังอย่างจริงจัง

การที่บุคคลในสมณเพศ ผู้นำศาสนา หรือครูสอนศาสนา ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีหรือได้รับผลกระทบจากความรุนแรงนั้นยังมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เป็นเรื่องที่บั่นทอนบรรยากาศแห่งการอยู่ร่วมกัน และอาจนำไปสู่การแบ่งขั้วแบ่งข้างทางสังคม สร้างความรู้สึกบาดหมางในหมู่ประชาชนผู้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มเลวร้ายลง และยากต่อการคลี่คลายมากยิ่งขึ้น

นายวิจักษณ์ พฤกษ์สุริยา รองเลขาธิการ ปชน. สัดส่วนภาคใต้ กล่าวว่า ตอนนี้เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ บทเรียนจากอดีตชี้ชัดว่าพลเรือนและประชาชนผู้บริสุทธิ์มักเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างสาหัสจากวงจรความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างโปร่งใส สืบสวนหาข้อเท็จจริง และนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงจังในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยยึดแนวทางทางการเมืองเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับการแสวงหาทางออกผ่านการพูดคุย การสร้างความเข้าใจ และการลดความเกลียดชัง เราขอย้ำอย่างหนักแน่นว่า ความรุนแรงไม่เคยเป็นคำตอบของปัญหาใด ๆ และการใช้ความรุนแรงโต้ตอบกับความรุนแรงจะนำมาซึ่งหายนะ และทำให้เราเข้าใกล้สันติภาพที่ทุกฝ่ายปรารถนายากขึ้น