เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568   พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ด่วนเช้านี้  ติดตามสถานการณ์ หลังเกิดเหตุยิงประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ในพื้นที่ อ.จะแนะ และอ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตจากทั้ง 2 กรณี เป็นหญิงชราพิการทางสายตาอายุ 76 ปี และ เด็กหญิงอายุ 9 ปี  โดยตั้งแต่เช้า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ที่ ฟาร์มตัวอย่างบ้านไอบือแต อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เรียกประชุมร่วมหน่วยงานความมั่นคง และประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธเพื่อทำความเข้าใจและให้กำลังใจ สร้างความเชื่อมั่น หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดจ็บทุกคน สั่งการกำลังเฝ้าระวัง และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน กลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ เพราะเป็นเป้าหมายอ่อนแอ ที่ผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าในขณะนี้

พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน และไร้ความเป็นมนุษย์อย่างสิ้นเชิง ผู้ก่อเหตุลงมือกับผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้ โหดเหี้ยมมาก ขณะนี้ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเร่งติดตามผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ ตนได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการทางยุทธวิธีขึ้นมา พร้อมเปิดปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้หลายรายและขยายผลเชื่อมโยงไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้อง

ผลจากการรุกหนักของเจ้าหน้าที่ ผู้ก่อเหตุรุนแรงจึงทำการตอบโต้ จากนี้จะได้เร่งให้ศูนย์บัญชาการทางยุทธวิธีติดตามไล่ล่า ผู้ก่อเหตุปิดทุกช่องทางการหลบหนี และตรวจค้นทุกแหล่งที่คาดว่าจะเป็นที่พักพิงหรือซ่อนตัวของแนวร่วมก่อเหตุในพื้นที่ พร้อมยกระดับให้ใช้มาตรการด้านความมั่นคงเข้มข้นที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ตนเองและดูแลกลุ่มเปราะบาง รับมือกับการตอบโต้ตลอด 24 ชั่วโมง เราจะไม่ยอมให้การกระทำอันป่าเถื่อนมาทำลายความสงบสุขของประชาชนโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอความร่วมมือประชาชนสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารจากโซเชียลมีเดีย อย่าแชร์หรือส่งต่อข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบหรือยืนยันจากหน่วยงานทางการ เพื่อไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีที่มุ่งหวังสร้างความแตกแยกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือพฤติกรรมผิดปกติในพื้นที่ สามารถแจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่
-สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 โทร. 061-1732999
-สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร. 1341
-หรือ หน่วยเฉพาะกิจ ในพื้นที่
และเตือนไปยังผู้ให้ช่วยเหลือผู้กระทำผิด เช่น ซ่อนเร้น ให้ที่พักพิง หรือจัดหาเสบียงอาหาร ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ขณะที่เสียงสะท้อนชาวพุทธในภาคใต้และชาวพุทธทั่วประเทศ สะท้อนเสียง ดังกระหื่มว่า หากทหาร รัฐบาล ยังใช้นโยบายเดิม ๆ แบบนี้ ทั้งพระสงฆ์และชาวพุทธในภาคใต้จะเป็นเป้าให้โจรใต้ยิงต่อเนื่อง  เนื่องจากผู้ก่อการร้ายไม่ได้ยิงเพราะการสู้รบแต่ “เลือก” ยิงผู้บริสุทธิ์ เด็ก คนชรา ผู้พิการ  นี่ไม่ใช่การต่อสู้ทางอุดมการณ์ แต่มันคือ การลอบสังหารอย่างไร้มนุษยธรรม  ไม่กี่วันก่อนหน้านี้…ยังมีเหตุลอบยิงสามเณรใน อ.สะบ้าย้อย  เป้าหมายของความรุนแรงทุกครั้ง คือ “ผู้ไร้อาวุธ” เสียงกระสุนอาจไม่เลือกเป้าหมาย แต่ คนลั่นไก… “เลือกแล้ว”2 พฤษภาคม 2568 พวกเขาไม่ได้ตายเพราะสงคราม แต่ตายเพราะ “ถูกเลือก” ว่าเป็นเป้าหมายเพียงเพราะพวกเขาเป็น… ไทยพุทธ?  ขณะที่หลายคนส่งเสียงให้ชาวพุทธ ลุกขึ้นสู้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน พร้อมตั้งกองโจรสู้..