เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการ “3 ตัด” เพื่อตัดตอนขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติในประเทศเมียนมา โดยระบุว่าหลังดำเนินการครบ 3 เดือน พบว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย และแม่สอด จังหวัดตาก ดีขึ้นอย่างชัดเจน ขบวนการได้ย้ายแหล่งไปยังพื้นที่อื่น พร้อมย้ำว่าการตัดสัญญาณไฟฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ตไปยังพื้นที่เป้าหมายมีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรมยอมรับว่ายังมีอุปสรรคในการส่งตัวผู้ประสบภัยกลับประเทศต้นทางในบางประเทศแอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอธิโอเปีย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนและมูลนิธิต่างประเทศเพื่อช่วยเหลือ

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงมาตรการ “Seal Stop Save” ว่าสามารถใช้ควบคู่ในการสกัดการค้ามนุษย์และยาเสพติด ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ที่แทรกซึมหลายภาคส่วน แต่มีความคืบหน้าในการจับกุมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของปีก่อน ถือว่าเป็นความคืบหน้าที่น่าพอใจ

ต่อข้อวิจารณ์จากผู้ประกอบการบางส่วนตามแนวชายแดนที่เห็นว่ามาตรการ 3 ตัด ส่งผลกระทบต่อการส่งออก นายภูมิธรรมระบุว่า ผลกระทบมีจำกัด เนื่องจากยังมีเส้นทางการค้าถูกต้องตามกฎหมายเปิดให้ดำเนินการ ส่วนการปิดท่าข้ามที่ถือเป็นจุดเสี่ยง เป็นมาตรการเฉพาะเพื่อป้องกันการนำเข้าอุปกรณ์สนับสนุนขบวนการผิดกฎหมาย

คดีฮั้วเลือก ส.ว. ต้องเป็นไปตามกฎหมาย

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นการใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันว่าทุกกระบวนการเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐตามอำนาจหน้าที่ที่มี โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งกำลังดำเนินการภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย

“ไม่มีการเลือกปฏิบัติตามสีหรือฝ่าย ทุกอย่างต้องยึดหลักกฎหมาย หากพบการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดี หากยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ ศาลคือผู้พิจารณาและตัดสิน” นายภูมิธรรมกล่าวทิ้งท้าย