วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 20:44 น.

การเมือง

ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" ชดใช้คดีจำนำข้าว 10,028 ล้าน 

วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 14.47 น.

วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น.  บรรยากาศที่ศาลปกครอง ตามที่ศาลปกครองสูงสุดโดย นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด และตุลาการเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะ เตรียมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในเวลา 13.30 น. ในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท

ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยวันนี้มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมาติดตามการอ่านคำพิพากษาครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งสำนักงานศาลปกครองได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้องราว 20 นาย มารักษาความสงบเรียบร้อย

ต่อมา นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมทีมทนายความเดินทางมา โดยกล่าวก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาว่า วันนี้มาตามนัดของศาลในฐานะทนายความ ซึ่งก็ไม่ได้เตรียมอะไรมา เพราะมานั่งฟังคำพิพากษาเท่านั้น ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ฝากอะไรมาเพราะก็ยังไม่ได้คุยกัน ตอนนี้ขอยังไม่ให้ความเห็นเพราะยังไม่อยากจะก้าวล่วงการพิจารณาของศาล แต่คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นที่ผ่านมาก็เป็นคุณกับเรา และทางฝ่ายกระทรวงการคลังได้ยื่นอุทธรณ์ ก็หวังว่าคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่จะออกมาก็น่าเป็นคุณกับเรา ส่วนทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้เท่าที่จำได้มี 30 รายการ แต่ตัวเลขเป็นจำนวนเท่าไหร่จำไม่ได้

โดยผลตัดสิน ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้คดีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท  โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เห็นว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายคนในมูลละเมิดกรณีโครงการรับจำนำข้าว ย่อมเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯที่จะต้องดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้รับผิด และจำนวนค่าสินไหมทดแทน ในมูลละเมิดเดียวกันกับผู้ฟ้องคดีที่ 1 รับผิดตามสัดส่วนเฉพาะในส่วนของตน มิใช่พิจารณาเพียงเสนอความเห็นว่า ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ผู้เดียวเป็นผู้กระทำ โดยจงใจปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการ

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง