“ธีรรัตน์” เปิดนิทรรศการ “ศิลปวัฒนธรรมเสริมสร้าง Soft Power ไทยอย่างยั่งยืน” หนุนยุทธศาสตร์รัฐบาล ใช้วัฒนธรรมและภูมิปัญญาชุมชนยกระดับ Soft Power ไทยสู่เวทีโลก 

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ “โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมเสริมสร้าง Soft Power ไทยอย่างยั่งยืน” จัดโดย วิทยาลัยช่างศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ณ หอศิลป์วังหน้า สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีศิลปินแห่งชาติ คณาจารย์ด้านศิลปกรรมจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก

การจัดนิทรรศการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมด้านทัศนศิลป์ที่วิทยาลัยช่างศิลปได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อ สืบสานและต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ผ่านการสร้างสรรค์ศิลปกรรมร่วมสมัย ที่ผสานอัตลักษณ์ดั้งเดิมเข้ากับแนวคิดและเทคนิคศิลปะร่วมสมัยอย่างลงตัว โดยเฉพาะจากชุมชนตลาดเก่าหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงศิลปวัฒนธรรมกับท้องถิ่นได้อย่างมีชีวิตชีวา และมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป

โครงการนี้สอดคล้องกับนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยใช้ Soft Power เป็นกลไกสำคัญในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และอัตลักษณ์ความเป็นไทย ซึ่งรัฐบาลผลักดันให้สามารถแข่งขันและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

นางสาวธีรรัตน์ ฯ กล่าวว่า "Soft Power คือพลังที่สามารถสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศได้อย่างยั่งยืน การที่วิทยาลัยช่างศิลปจัดโครงการนี้ ถือเป็นการเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ที่ไม่เพียงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นอย่างตลาดเก่าหัวตะเข้ ได้ถ่ายทอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของตนเองผ่านงานศิลป์สู่สายตาสาธารณชน"

นิทรรศการได้นำเสนอผลงานทัศนศิลป์ที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และฝีมือของนักเรียน นักศึกษา และศิลปินซึ่งได้รับการหล่อหลอมจากวิทยาลัยช่างศิลป ซึ่งถือเป็นสถาบันการศึกษาศิลปะระดับแนวหน้าของประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตบุคลากรด้านศิลปวัฒนธรรมเพื่ออนาคตของชาติ

การจัดโครงการครั้งนี้จึงมิได้เป็นเพียงกิจกรรมทางศิลปะ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล โดยหวังให้ประเทศไทยสามารถใช้พลังสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ยกระดับประเทศสู่ความเข้มแข็งในเวทีโลก ทั้งในมิติของศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาชุมชนอย่างยั่งยืน