เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568  นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ออกโรงชวนประชาชนคนไทยจับตาการใช้งบประมาณของรัฐบาล แทนการจับตาดราม่าปัญหาภายในรัฐบาล โดยชี้ว่า ในช่วงที่สื่อและประชาชนจับตามองความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอดในระยะนี้ แต่ในขณะเดียวกัน การใช้งบกลางของรัฐบาลในช่วงท้ายของปีงบ 68 ก็ถูกมองข้ามไปด้วย และเป็นโอกาสที่จะทำให้โครงการที่ไม่สมเหตุสมผลหลุดเข้ามาผลาญงบประมาณได้ในช่วงที่การเมืองฝุ่นตลบ

ก่อนหน้านี้มีการอนุมัติโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ให้ใช้งบกลางร่วม 7,000 ล้านบาท ซึ่งยังมีเสียงสะท้อนออกมาด้วยความกังขาว่า เหตุใดจึงปล่อยงบออกมาในช่วงฤดูที่มีน้ำ แทนที่จะให้ขุดลอกในหน้าแล้ง แถมพ่วงด้วยเอกสารที่หลุดออกมาเรื่องงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้าน ที่เอาไปใช้ในท้องถิ่นเช่นกัน และลงโครงการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง การซ่อมบำรุงต่าง ๆ โดยให้ท้องถิ่นมีเวลาตามกำหนดส่งโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจแค่ 2-3 วัน

สิ่งเหล่านี้ถูกดึงความสนใจออกไปง่ายมาก เพราะเพียงแค่มีข่าวทะเลาะเบาะแว้งกันภายในรัฐบาล หรือมีเหล่าบรรดาตัวเล็กตัวน้อยออกมาพูดดราม่าการเมือง ก็จะกลบข่าวเรื่องงบประมาณได้มิดทันที เพราะเป็นเรื่องที่ดึงดูดความสนใจได้มากกว่า
นายปริเยศ กล่าวอีกว่า ตนเองเสียดายที่วันนี้พรรคฝ่ายค้านยังต้องรอโอกาสที่จะไปทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไปอีกสักระยะ เพราะตนไม่เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะยุบสภาได้โดยง่าย เนื่องจากยังเหลืองบประมาณอีกอย่างน้อย 2 ปีให้ได้ใช้จ่าย

แต่ตนเองมีความกังวลใจว่า หากเศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้ แต่เราไม่ได้ยินข่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลเลย นอกจากการตอบข่าวดราม่า, ข่าวภายในครอบครัว, และมหาโปรเจกต์ที่คิดไว้แต่ยังไม่สามารถทำได้จริง การที่รัฐบาลมีแต่ข่าวแบบนี้ น่ากังวลว่าปัญหาเศรษฐกิจจะลุกลามจนกลายเป็นปัญหาคนตกงาน ธุรกิจล้ม และอาจส่งผลจนมีปัญหาอาชญากรรมในสังคมได้
จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยช่วยกันละสายตาจากดราม่าการเมืองภายในรัฐบาล มาจับตาการใช้งบประมาณของรัฐบาลในช่วงนี้ให้จงหนัก เพราะหากแก้ไขปัญหาทุจริตได้ อย่างน้อยจะทำให้ประเทศชาติเสียหายน้อยลง และพอจะมีเงินทองที่ไม่ถูกโกงกินมาประคับประคองสถานการณ์ประเทศได้ และตนเชื่อว่าหากทุกคนช่วยกันจับผิดเรื่องนี้ จะทำให้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แน่นอนจากน้ำมือของคนไทยเอง