วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:12 น.

การเมือง

"ราชิต" ตีตรงจุด! ชี้งบ 69 ดี ห่วงถนนเฉลิมพระเกียรติ ช่วงที่ 2 ทำ นครศรีจราจรคอขวด!  พร้อมชู "ประกันรายได้"  ประชาธิปัตย์ จะทำราคาปาล์มสูงเกิน 4 บาท 

วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 19.57 น.

วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา  นายราชิต สุดพุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยได้เห็นชอบกับร่างงบประมาณวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทในวาระที่หนึ่ง พร้อมวิเคราะห์และเสนอแนะแนวทางการจัดทำงบประมาณโดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 เรื่องหลัก ได้แก่ โครงการถนนเฉลิมพระเกียรติ และปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ

สำหรับโครงการถนนเฉลิมพระเกียรติและส่วนต่อขยายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ระยะทางรวม 30.592 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 จากศาลาบางปู ถึงถนนเฉลิมพระเกียรติแยกบางเตย ช่วงที่ 2 จากถนนเฉลิมพระเกียรติ แยกบางเตย ไปยังถนนบ้านจังหูน ระยะทาง 10.78 กม. นายราชิตตั้งข้อสังเกตว่า แม้ขณะนี้โครงการช่วงที่ 2 จะได้รับงบประมาณผูกพัน 3 ปี (พ.ศ.2567 – 2569) รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,433 ล้านล้านบาทแล้ว แต่ในทางปฏิบัติถนนเส้นนี้เดิมนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการใช้เพื่อระบายรถออกจากเมืองไปสนามบิน และจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่กลับมีการเสนอเพิ่มเติมเพื่อทำถนนเลี่ยงเมือง ทำให้โครงการช่วงที่ 2 ได้รับงบประมาณดำเนินการก่อนช่วงที่ 1 ที่ยังไม่ได้รับงบประมาณ ดังนั้นเมื่อโครงการช่วงที่ 2 แล้วเสร็จในปี 2569 จะทำให้มีรถวิ่งเข้าเมืองและเกิดปัญหาการจราจรอย่างหนัก เนื่องจากถนนทุกสายจะวิ่งเข้าไปสู่จุดเดียวกัน ทำให้เกิดเป็นคอขวดและสร้างปัญหาให้กับเมืองนครศรีธรรมราช 

นายราชิต จึงได้เสนอให้กรมทางหลวงชนบทได้เร่งออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตเวนคืนที่ดิน พร้อมเร่งจัดตั้งงบประมาณเพื่อสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่สำคัญคือจะต้องตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับโครงการในช่วงที่ 2 ไปสู่โครงการช่วงที่ 1 เพื่อให้โครงการมีความคุ้มค่า บรรลุวัตถุประสงค์ และไม่สร้างปัญหาการจราจรให้คนนครศรีธรรมราช 

สำหรับปัญหาวิกฤตปาล์มน้ำมันที่มีราคาตกต่ำ ลานเทไม่รับซื้อนั้น นายราชิต กล่าวว่า ปาล์มน้ำมันจะเป็นพืชน้ำมันที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ แต่ความต้องการของตลาดโลกมากกว่าการผลิต แต่ในข้อเท็จจริงแล้วพบว่าวันนี้ตนได้ส่งคนไปสำรวจราคา พบว่าในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 3.80 บาท ขณะที่ลานเท 6-7 แห่งได้ปิดการรับซื้อไปครึ่งหนึ่ง ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

“ปาล์มน้ำมันต่างจากพืชอื่น พอถึงรอบการเก็บเกี่ยว ภาษาใต้เรียกว่าแทงปาล์ม ภายใน 21 วัน หากไม่เก็บจะร่วงเสียหาย และต้องจ้างแรงงานเป็นกลุ่ม ถ้ารอบนี้ไม่ได้แทงปาล์ม ลานเทไม่รับซื้อ ก็ต้องรอไปอีก 21 วัน เกษตรกรเสียหายมาก” นายราชิต กล่าว 

พร้อมกับเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมัน ดังต่อไปนี้ 
1.  ในแต่ละปีรัฐบาลต้องคาดการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันให้ได้อย่างชัดเจนและโปร่งใส 
2.  การส่งออกและจัดหาตลาดใหม่ โดยเฉพาะอินเดีย ยุโรป และจีน แต่ต้องห้ามนำเข้าพืชผลเกษตรที่มาทดแทน เช่น ถั่วเหลืองจากสหรัฐอเมริกา เพราะจะส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันพืชในประเทศและนโยบายไบโอดีเซล
3.  มีนโยบายที่ชัดเจนในการทำไบโอดีเซล โดยควรส่งเสริมให้ไปถึง B10 และ B100 เพื่อลดปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันในตลาด
4.  ส่งเสริมเกษตรคาร์บอนต่ำ โดยจัดงบประมาณให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น น้ำมันปาล์มแดง ซึ่งมีศักยภาพด้านสุขภาพ
5.  จัดตั้งคณะกรรมการระดับพื้นที่ (จังหวัด/อำเภอ) ให้มีความชัดเจน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงเมื่อเกิดวิกฤต
6. รัฐบาลสามารถนำนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่อง การประกันรายได้เกษตรกร กับพืช 5 ชนิด กลับมาใช้ได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทำให้ราคาขายปาล์มจะสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 4 บาทต่อกิโลกรัมอย่างแน่นอน
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง