วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:26 น.

การเมือง

ยังไม่อยากกลับบ้าน!  แรงงานกัมพูชาไม่เชื่อมาตรการรัฐบาลมีอยู่จริง 

วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.06 น.

เมื่อวันที่ 16  มิถุนายน 2568   หลังจาก "สมเด็จฮุน เซน" ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้แรงงานชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย กลับประเทศกัมพูชา หวั่นทางการไทยอาจเนรเทศพวกเขาในอนาคตอันใกล้ โดยได้เตรียมมาตรการรับมือช่วยเหลือแรงงานเหล่านี้เรียบร้อยนั้น   

ที่บริเวณจุดผ่อนปรน ด่านบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จันทบุรี ยังคงเปิดให้ประชาชนข้ามผ่านแดนตามปกติ ยกเว้นรถขนส่งสินค้าทางการเกษตร ที่ยังไม่ให้เข้าออก โดยสถานการณ์การข้ามผ่านแดนของชาวกัมพูชาที่ผ่านแดนเข้าออกกันตั้งแต่ประตูเปิดเมื่อเวลา 08:00 ตามเวลาปรับเปิด - ปิดด่านใหม่ เนื่องจากยังมีแรงงานชาวกัมพูชาบางส่วน ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ขณะที่ชาวกัมพูชาจำนวนมาก พากันขนข้าวของเครื่องใช้ มีทั้งเครื่องซักผ้า พัดลมกระทั่งตู้เย็น เดินข้ามพรมแเดนกลับประเทศ แรงงานบางรายนำสิ่งของข้ามกลับไปฝากให้ญาตินำกลับบ้าน ก่อนเดินทางกลับเข้ามาทำงานที่ประเทศไทย

ที่จุดผ่านแดนบ้านผักกาด จะมีแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางเฉลี่ย 400 - 600 คนต่อวัน เพื่อข้ามไปมาและกลับบ้าน แต่จะใช้วิธีเดินเท้าแบกสิ่งของ หรือใช้รถเข็นเข็นข้ามผ่านแดน ส่วนรถบรรทุก หรือรถที่ต้องใช้ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ทางกัมพูชายังไม่อนุญาตให้ผ่านข้ามไป เช่นเดียวกับฝั่งไทยที่มีการงัดมาตรการไม่รับหรือให้นำเข้ามาใช้ ด้วยเช่นกัน โดยไม่ให้รถที่บรรทุกผลผลิตทางการเกษตร เข้ามาประเทศไทยเช่นกัน

ส่วนสถานการณ์จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิตร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยเมื่อช่วงเวลา 8:00 น. ทางฝั่งไทยได้ทำการเปิดประตูเหล็กประตูใหญ่ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งบรรยากาศโดยรวมบริเวณหน้าด่านเต็มไปด้วยแรงงาน และประชาชนชาวกัมพูชา ต่างขนสัมภาระข้าวของมารอบริเวณหน้าตม.กว่า 500 คน เพื่อหวังเดินทางกลับประเทศของตนเอง

ส่วนภายในตลาดบ้านแหลม พบว่าร้านค้าปลีกค้าค้าส่งส่วนใหญ่ ซึ่งมีผู้ประกอบการและแรงงานชาวกัมพูชา ได้ปิดทำการชั่วคราวหลายแห่ง โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านอุปโภคข้าวของเครื่องใช้สิ่งของจำเป็นที่คนชายแดนต้องมาจับจ่ายซื้อสินค้า ทำให้ตลาดในวันนี้เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ขณะที่แรงงานชาวกัมพูชารายหนึ่ง ทำงานแผงผลไม้อยู่ที่ ตลาดผลไม้ เนินสูง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เดินทางมารอข้ามแดน พร้อมครอบครัว ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อเตรียมพาครอบครัวเดินทางกลับจังหวัดบันเตียนเมียนเจย หลังจากแผงทุเรียนปิดเรียบร้อย และได้รับข่าวสารจากทางประเทศบ้านเกิดว่าให้เดินทางกลับ
 
กรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาเชิญชวนให้กลับประเทศและจะมีเงินให้มีตำแหน่งงานให้ทำ ชาวพระตะบอง ตอบอย่างไม่ลังเลว่า "ไม่มีจริงหรอก ถ้ามีจริงไม่ต้องเรียกถ้ามีเขาจะกลับไปเองพรุ่งนี้เลย" ไม่มีใครที่อยากห่างจากบ้าน โดยตนเองไม่มั่นใจรัฐบาล ถ้ามีเงินจริงทุกคนจะดิ้นรนมาเมืองไทยทำไม ก็ต้องอยู่บ้านตัวเองแล้วสิ ตนเองมาอยู่เมืองไทยหลายปีแล้ว แต่พึ่งมาอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีได้เพียงหนึ่งปีเศษ คนไทยใจดีไม่เคยมีใครมาทำร้าย อยู่เมืองไทยสบายดี มีเงินส่งกลับบ้าน ถ้าไม่มีเงินส่งกลับบ้าน ผมกลับนานแล้ว ใครบอกว่าเมืองไทยไม่ดีตัวผมเองยืนยันว่าดี แต่ที่ไม่ดีคือตัวของบุคคลต่างหาก เมืองไทยมีพร้อมทุกอย่างใครใครก็อยากจะมาอยู่เมืองไทยสอดคล้องกับคำพูดของ 

ชาวพนมเปญ กล่าวว่า ตนเองยังไม่พร้อมที่จะกลับ เนื่องจากยังทำงานอยู่ ตนเองรักทั้งสองฝ่าย ทางโน้นก็ดีทางนี้ก็ดี อยากให้ดีกันเนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว อยากให้รักกัน ตัวเองมาอยู่เมืองไทยได้หลายปีแล้ว เมื่อก่อนอยู่กรุงเทพ ถ้าให้ตอบตามตรงตนเองอยู่ตรงไหนที่สบายใจ ก็อยากอยู่ตรงนั้น ตรงไหนมีงานทำก็อยากทำอยู่ ถามว่าคิดถึงบ้านไหมก็คิดถึง แต่ว่าต้องเลือกทำงาน

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง