วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:00 น.

การเมือง

"กล้าธรรม" ยันยังสนับสนุน "นายกฯแพทองธาร" ทำงานต่อ ลั่นยืนอยู่ข้างคนไทยและกองทัพ

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 16.03 น.

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า ไม่ว่าการเมืองจะอยู่ในสถานการณ์ใด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็มีข้าราชการประจำทำงานตามนโยบายหลักในการดูแลเกษตรกรอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องเป็นกังวล และคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ขอให้ทุกท่านสบายใจได้ เวลาเช่นนี้ เป็นเวลาที่เราต้องสามัคคีกัน เราเป็นผู้ถูกกระทำและอาจจะกำลังจะหลงเกมของเขาหรือไม่ เราต้องหันมามองหน้ากัน เราอยู่ในประเทศเดียวกันก็ต้องรักกัน ต้องปกป้องกันเอง เพื่อไปต่อสู้กับเขา

"ตอนนี้ต้องให้กำลังใจกองทัพ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่แนวหน้า เข้าใจว่าสถานการณ์มีความตึงเครียด ก็อย่าเพิ่งเพิ่มความเครียดให้กับกองทัพ เราต้องสามัคคีกันด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อส่งกำลังใจให้ เจ้าหน้าที่ทหารที่ต้องทำงานอยู่แนวหน้า เขาจะได้นอนหลับ มีแรงต่อสู้ปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย"

เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคกล้าธรรม เนื่องจากหลายพรรคได้แถลงจุดยืนแล้ว นางนฤมล กล่าวว่า พรรคของเรายังไม่ได้มีการประชุม เนื่องจาก สส.พรรค อยู่ในพื้นที่ดูแลประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ

แต่ส่วนตัวมองว่า ไม่จำเป็นต้องออกแถลงการณ์ใดๆ เพราะทุกคนมีจุดยืนเดียวกันหมด เราเกิดมาในประเทศไทย ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทุกคนหวงแหนรักษาอธิปไตยของไทย ไม่มีคนไทยคนใดที่อยากเสียอธิปไตย

เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรม ยังสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ใช่ ยังสนับสนุนอยู่ และพร้อมยืนอยู่ข้างคนไทย และกองทัพ

เมื่อถามว่า มีรัฐมนตรีหลายคนลาออกจะมีผลกระทบในการทำงานหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่น่ามีผลกระทบ เพราะในแต่ละกระทรวงจะมีผู้รักษาการทำงานอยู่แล้ว การเมืองก็เป็นเช่นนี้

ยืนยันปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ไม่กระทบส่งออกสินค้าภาคเกษตรไทย

นางนฤมล   พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันแถลงข่าวผลกระทบต่อภาคการเกษตรต่อกรณีไทย - กัมพูชาว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาและกระทรวงเกษตรฯได้รับการมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลผลกระทบกับเกษตรกร และหาแนวทางที่จะทำให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

นางนฤมล กล่าวต่อว่า จากข้อมูลล่าสุดตัวเลขสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาหรือต้องขนส่งผ่านทางกัมพูชาเพื่อส่งออกไปเวียดนามนั้น มีจำนวนและปริมาณไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ไม่ใช่สินค้าภาคการเกษตร ซึ่งทางกัมพูชาน่าจะได้รับผลกระทบในการส่งออกสินค้ามาที่ประเทศไทยมากกว่า เช่น มันสำปะหลัง ที่มีการส่งออกประมาณ 9000 ล้านบาท แต่ตรงนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อหามันสำปะหลังจากแหล่งอื่นมาทดแทนให้กับทางโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้เป็นวัตถุดิบ หรือใช้พืชชนิดอื่นมาทดแทน

"ดิฉันได้เรียนให้กับนายกรัฐมนตรีได้ทราบพี่น้องเกษตรกรไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อาจจะมีบ้างในส่วนของผลไม้และพืชผักบางชนิด ซึ่งในการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่นๆเข้าไปช่วยเหลือและระบายสินค้าไปที่แหล่งอื่น ๆ และได้มีการสั่งการให้ทำแผนระยะกลางและระยะยาวหากเหตุการณ์ตึงเครียดยืดเยื้อออกไป ก็จะมีการประสานกับภาคเอกชนในประเทศให้ซื้อสินค้าจากเกษตรกรของไทยแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งก็ต้องขอฝากภาคเอกชน ขอให้ร่วมกันอุดหนุนสินค้าการเกษตรด้วย" นางนฤมล กล่าว

 นางนฤมล กล่าวต่อว่า สินค้าเกษตรของไทยส่วนใหญ่ส่งออกไปประเทศจีนมากที่สุด โดยขนส่งผ่านทางประเทศลาว เช่น ทุเรียน ก็จะผ่านไปทางด่านนั้น และในส่วนของมันสำปะหลัง ตนมองว่าน่าจะเป็นผลดีกับราคามันสำปะหลังในประเทศด้วยซ้ำ เพราะภาคเอกชนจะต้องหันมาใช้มันสำปะหลังในประเทศมากขึ้น รวมไปถึงพืชชนิดอื่น ๆ ที่สามารถนำมาทดแทนกันได้ด้วย

"วันนี้เราอยากจะให้พี่น้องคนไทยมีความสามัคคีกัน และขอให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรทั่วประเทศ คลายความกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้สบายใจได้ว่า จะไม่มีใครได้รับผลกระทบ และกระทรวงเกษตรก็จะดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด จะไม่ปล่อยให้ผลกระทบขึ้นอย่างแน่นอน"  นางนฤมล กล่าว 

 
 

หน้าแรก » การเมือง