วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:38 น.

การเมือง

นายกฯ ถก 7 ผู้ว่าฯชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำแม้ผู้บริหาร มท. ​เปลี่ยนแปลง ต้องทำงานเพื่อชาติ-ปชช.เข้มแข็ง

วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 10.01 น.

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดน ไทย-กัมพูชา ลั่น​ แม้รัฐบาลหวัง หลีกเลี่ยงการปะทะ​ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย โรงพยาบาลสนาม -​ทุกภาคส่วนต้องพร้อม ก่อนย้ำผู้บริหารมหาดไทย​ แม้มีการเปลี่ยนแปลง​ แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่ออย่างเข้มแข็ง ไม่มีการเปลี่ยน พร้อมสัญญารัฐบาลไม่ทิ้งกระทรวงใด​  

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568   ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และวิดีโอ คอนเฟอร์เร้นท์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย​ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี และสระแก้ว โดยมี นางสาวธีรรัตน์​ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมการประชุม

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวในที่ประชุม​ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง​ของกระทรวงมหาดไทย​ ว่า เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลง​ แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่ออย่างเข้มแข็ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า​ ทุกท่านที่อาสามาอยู่ตรงนี้ได้ดูแลประชาชนมาระยะต่างกัน ตนคิดว่าเมื่อเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักก็จะสร้างเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรต่อ​ ในเรื่องสถานการณ์​ชายแดน 

นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดและมีการพูดคุยถึงเรื่องหลุมหลบภัย​ และบังเกอร์ โดยมีการสั่งการให้ทำเพิ่มเติม​ ซึ่งตนอยากเน้นย้ำว่า​ พวกบังเกอร์ที่มีขอให้ช่วยดูเรื่องของคุณภาพให้ดี เนื่องจากไม่แน่ใจว่า​ บังเกอร์ที่ชาวบ้านทำเอง จะสามารถป้องกันได้มากน้อยเพียงใด และบังเกอร์​ที่สร้างอย่างรวดเร็ว​ ก็ไม่แน่ใจว่าสามารถป้องกันอะไรได้บ้าง​ จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดู 

นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆที่ยังไม่เพียงพอ​ หรือมีอะไรที่ยังไม่ค่อยทันสมัย​ จึงไม่อยากให้ประชาชนได้ต้องเป็นห่วง และขอให้ทางกองทัพช่วยกันดู ว่าของเรานั้นมีความพร้อมอยู่เสมอ​ แน่นอนว่าต้องการเลี่ยงการปะทะอย่างแน่นอน​ แต่หากเกิดสุดวิสัย ก็ต้องรักษาชีวิตของทหารชายแดนนับหมื่นคน และรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยชีวิตของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญและที่ตนเคยบอกไปก่อนหน้านี้มหาดไทยเป็นบ้าน​ ทหารเป็นรั้ว มหาดไทยเองก็ต้องดูแลคนในบ้านให้ปลอดภัย ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

ส่วนในพื้นที่ 7 จังหวัดก็มีผู้ว่าราชการจังหวัดนายอำเภอ นายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ขอให้ดูแลประชาชน ในการปฏิบัติพื้นที่ส่วนหลัง ตอนนี้รัฐบาลกำลังพูดคุย ไม่ให้เกิดการปะทะไม่เกิดความรุนแรง​ แต่ขอให้มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่าง หากเกิดเหตุการณ์มีการปะทะ​ โรงพยาบาลและทุกอย่างต้องมีความพร้อม บุคลากรต้องพร้อม พร้อม​ ควบคู่ไปกับเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ แม้ว่าจะสามารถปราบไปได้เยอะมากๆในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับเสียงสะท้อนจากสส.ว่าเราจับล็อตใหญ่ๆไปได้​ แต่ยังมีล็อตที่เข้ามาแล้วในหมู่บ้านชุมชน ที่เป็นล็อตเล็กๆแต่มีการกระจายถึงชาวบ้านอยู่ นี่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตา และดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ที่นำข้อมูลเรื่องยาเสพติดมาให้​ ไม่อยากให้ต้องรู้สึกกลัวและไม่บอกข้อมูลข้อเท็จจริง​ ซึ่งจากที่ได้คุย​กับสส.และภาคต่างๆ​ ชาวบ้านจะไม่ค่อยกล้าบอก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ใหญ่บ้านซึ่งสส.ก็ได้รับรู้มาบ้าง จึงอยากขอให้สร้างความมั่นใจว่า​ เขาสามารถให้ข้อมูลได้​ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดที่เกิดขึ้นในชุมชน พร้อมกับสร้างความ มั่นใจในเรื่องของข่าวปลอม โดยอยากให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากเพจหลัก 

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเชื่อมั่นและทราบฝีมือ และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะสามารถทำประโยชน์และทำงานอย่างต่อเนื่อง ขอให้ช่วยกันทำงานให้เข้มแข็งที่สุด และสัญญาว่ารัฐบาล ไม่ทิ้งกระทรวงไหน และมั่นใจว่าทุกกระทรวงจะสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้​ ขอให้ยึดเป้าหมายเป็นสำคัญ

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกคนมีความพร้อมในการร่วมปกป้องรักษาอธิปไตยอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในระดับพื้นที่ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการ "พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง" เพื่อให้เกิดความพร้อมหลังแนวรบ และอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้งการสนับสนุนทรัพยากร และบรรเทาภัยเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ในเขตพื้นที่ซึ่งมีความไม่สงบอยู่ในขณะนี้

"ตนได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นพื้นที่ชายแดนในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัด เตรียมความพร้อม และกำชับให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รวมถึง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ และเข้มแข็ง ทั้งในด้านกลยุทธ์ ด้านการข่าวมาโดยตลอด โดยสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เป็นอันดับแรก โดยกำลังพลในอำเภอชายแดนไทย - กัมพูชาที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสามารถสั่งใช้กำลังพลได้ตลอด 24 ชั่วโมง" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติม

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการร่วมกันปกป้องรักษาอธิปไตย นั่นคือ "ความสามัคคี" ที่จะนำพาให้พวกเราทุกคนฝ่าวิกฤตได้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสวมหมวกหลายใบ ทั้งผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดน ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด ต้องใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการดูแลพี่น้องประชาชนตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อย่างเต็มกำลัง สำรวจและปรับปรุงซ่อมแซมหลุทหลบภัยให้มีความปลอดภัยและสามารถใช้งานได้ทันที รวมทั้งต้องฝึกซ้อมให้เหมือนจริง ทำจริงให้เหมือนซ้อม กำหนดไว้ในหลักการทำงานของกำลังพล  นอกจากนี้ ให้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ใช้กลไกหอกระจายข่าว หมู่บ้านชุมชนสื่อสารสิ่งที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และสิ่งที่ต้องให้ประชาชนรับรู้อย่างต่อเนื่อง และตามหน้าที่พิทักษ์ส่วนหลัง พร้อมทั้งกำชับในเรื่องยาเสพติด ต้องไม่ให้หลุดรอดเข้ามาในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน ด้วยการตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งด่านชุมชน เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเข้มข้น

นายภาสกร  บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กล่าวถึงกรณีหากเกิดการปะทะสู้รบ ที่ถือเป็นภัยประเภทหนึ่ง ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าวในการบริหารจัดการด้านงบประมาณได้อีกทางหนึ่ง

จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้รับฟังการนำเสนอภาพรวมสถานการณ์และแนวทางการดำเนินการตามนโยบายจาก นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งรายงานจากศาลากลางจังหวัด

การประชุมในวันนี้ นายเสรี กัณฑโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย นางสาวอรอุมา วรแสน ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย นางปณิดา พันธุ์โชติ ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง นายนพรัตน์ ศรีพรหม ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมด้วย 

ต่อจากนั้นเวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพบปะกำลังพลกองกำลังสุรนารี และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ ณ ฐานปฏิบัติการมรกต ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน

หน้าแรก » การเมือง