วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568 08:25 น.

การเมือง

“สส.บัญชา-ผู้ประกอบการโรงสี” ให้ข้อมูล "ดีเอสไอ" เอาผิด ขรก.และผู้เกี่ยวข้องระบายข้าวยุค คสช.ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน  

วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 15.40 น.

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568   เวลา 14.00 น.นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม(กธ.)เปิดเผยว่า วานนี้ตนพร้อมด้วยนายอานุภาพ ภรพิริยะนิยม ประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดยโสธร อุปนายกโรงสีข้าวไทย และทนายวีระยุทธ สิทธิโภช ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เพื่อให้ข้อมูลครั้งสุดท้ายในการระบายข้าว 18.9 ล้านตัน สมัยรัฐบาล คสช. ปี 58-62 เร่งระบายข้าวโดยวิธีคิดเองทำเอง ตั้งระเบียบขึ้นมาใหม่เอง ไม่เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ และได้ร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำผิด เพื่อส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนตามกฎหมาย 

โดยนายบัญชา กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่ผู้ประกอบการคลังสินค้าได้มายื่นเรื่องร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ประกอบการคลังสินค้า ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ และคณะบุคคลและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สอบสวนเรียบร้อยแล้ว เพื่อส่งให้ ป.ป.ช. ไต่สวนเอาผิดกับข้าราชการและผู้เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวสมัยรัฐบาล คสช.ต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 นายบัญชาพร้อมกลุ่มผู้ประกอบการคลังสินค้าฝากเก็บข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าว ปีการผลิต 56/57 กว่า 40 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อดีเอสไอ เพื่อขอความเป็นธรรม และให้สอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จากการคัดเกรดข้าว การระบายข้าว ตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการระบายข้าวที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

โดยกลุ่มผู้ประกอบการคลังสินค้า ได้ยื่นความต้องการให้ดีเอสไอดำเนินการ เช่น การตรวจสอบข้าว การเก็บตัวอย่างข้าวหลังรัฐประหาร ไม่เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ โดยมีการจัดเกรดข้าวก่อนขายให้พ่อค้า ทั้งที่ไม่มียุคใดทำมาก่อน เพราะปกติจะขายเหมาโกดัง แต่ปี 60-61 มีการจัดเกรดข้าวเอ-บี-ซี โดยข้าวเกรดซี คือข้าวที่คนกินไม่ได้ ต้องขายเป็นอาหารสัตว์-เผาเป็นเอทานอล-ทำปุ๋ย ข้าวสารทั้งหมด 18.9 ล้านตัน แต่ถูกจัดเป็นข้าวเกรดซีถึง 12 ล้านตัน เพื่อขายให้เอกชน 19 ราย ในราคา กก. ละ 2-3 บาท ทำให้รัฐเสียหายกว่าแสนล้านบาท เพราะเอกชน เอาไปส่งออก-ขายในประเทศ ถึง กก. ละ 12-13 บาท
 

หน้าแรก » การเมือง