เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. บรรยากาศที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เต็มไปด้วยความวุ่นวายและตึงเครียด หลังมีแรงงานชาวกัมพูชากว่า 500 คนแออัดรอบจุดตรวจแดน หวังข้ามกลับประเทศไทย แต่ต้องเผชิญกับคำสั่งปิดด่านที่มีผลในทันที

คำสั่งจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้สั่งยกระดับการควบคุมแนวชายแดน โดยงดการเดินทางเข้า–ออกของประชาชนและยานพาหนะทุกประเภท ทั้งที่จุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้ารวม 5 แห่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม, บ้านผักกาด และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านซับตารี บ้านสวนส้ม

อนุโลมเฉพาะด้านมนุษยธรรม
แม้จะมีการปิดด่านโดยรวม แต่มีข้อยกเว้นสำหรับเหตุผลด้านมนุษยธรรม เช่น การเดินทางของนักเรียน, การรักษาพยาบาลเร่งด่วน และการขนส่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ซึ่งในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูเล็กให้กลุ่มนักเรียนไทย–กัมพูชาเดินข้ามแดนไปกลับตามปกติ

แรงงานรอข้ามแดนแน่นด่าน – หวังกลับบ้านแม้ไม่รู้อนาคต
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าหลังเวลา 08.00 น. กลุ่มแรงงานกัมพูชาจำนวนมากที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน ยังคงรวมตัวแน่นบริเวณหน้าด่านไทย ท่ามกลางความไม่ชัดเจนว่าจะสามารถข้ามแดนได้หรือไม่

นายเซง ฮ้ง แรงงานชาวกัมพูชาเปิดเผยว่า ตนและเพื่อนรวม 8 คนซึ่งทำงานในโรงงานปลากระป๋องที่จังหวัดระยอง เดินทางมาพร้อมข้าวของเพื่อกลับประเทศ แม้จะรู้ว่าด่านถูกสั่งปิด แต่ยังคงหวังว่าจะได้รับอนุโลมให้กลับบ้านได้ พร้อมยืนยันจะรออยู่ที่หน้าด่านต่อไปจนกว่าจะได้รับอนุญาต

การค้าชายแดนซบเซา – ร้านค้าปิดเกินครึ่ง
ผลกระทบจากการปิดด่านส่งผลต่อการค้าบริเวณตลาดชายแดนบ้านแหลมอย่างเห็นได้ชัด ร้านค้ากว่า 50% ปิดให้บริการ เหลือเพียงร้านจำหน่ายอาหารสดและของใช้จำเป็นเปิดทำการ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าระบุว่าลูกค้าหลักจากฝั่งกัมพูชาไม่สามารถข้ามมาได้ ทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก

ฝั่งกัมพูชาเปิดประตูให้แรงงานกลับประเทศ – ห้ามกลับเข้าไทย
ต่อมาในเวลา 09.00 น. ด่านฝั่งกัมพูชาได้เปิดทางให้แรงงานเดินทางกลับประเทศ โดยทางฝั่งไทยมีการตรวจสอบเอกสารและสัมภาระอย่างเข้มงวด พร้อมเน้นย้ำว่า การเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ถือเป็นการอนุโลมเฉพาะกรณี และผู้ที่เดินทางออกไปจะยังไม่สามารถกลับเข้าประเทศไทยได้จนกว่าจะมีคำสั่งใหม่

นาวาเอก นพโรจน์ สิริปริยพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารได้ลงพื้นที่ควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ชุลมุนหนักหน้าแดน – เสียงวิจารณ์ข้ามฝั่ง
ช่วงสายพบว่ามีแรงงานกัมพูชากลุ่มใหญ่รวมตัวหน้า “ด่านช่องโดง” ด้านกัมพูชา เกิดความชุลมุนขึ้นจากแรงงานที่ต้องการกลับเข้ามาทำงานในไทย แต่ถูกสกัดไว้ ทำให้มีเสียงตะโกนโต้ตอบและการแสดงความไม่พอใจดังข้ามฝั่งมายังฝั่งไทย

คำสั่งปิดด่านครั้งนี้เป็นการดำเนินการชั่วคราวตามดุลยพินิจของหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธินจันทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมสถานการณ์ชายแดนให้เรียบร้อย และรองรับมาตรการด้านความมั่นคงในห้วงเวลาสำคัญ.