วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 23:57 น.

การเมือง

“พิชัย” มั่นใจไทยยังต่อรองภาษีสหรัฐได้ใน 20 วัน – พาณิชย์เร่งรับมือ SMEs ด้าน “สภาพัฒน์” ชี้สินค้าบางรายการยังแข่งได้

วันอังคาร ที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 10.25 น.

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาส่งหนังสือแจ้งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 36% เมื่อคืนวันที่ 7 กรกฎาคมว่า ยอมรับว่าเป็น “เรื่องที่ช็อกบ้างเล็กน้อย” แต่เชื่อว่ายังมีโอกาสในการเจรจา โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐฯ ขยับเส้นตายการเจรจาไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ซึ่งไทยยังมีเวลาอีก 20 วันในการหารือและต่อรอง

นายพิชัยระบุว่า จดหมายจากสหรัฐฯ อาจเป็นการเร่งให้การเจรจาเข้มข้นขึ้น เพราะขณะนี้ไทยได้ส่งข้อเสนอใหม่ไปตั้งแต่คืนวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งอาจยังไม่ถูกพิจารณาในจังหวะเวลาที่สหรัฐฯ ออกจดหมายเรียกเก็บภาษีดังกล่าว

“เราคาดว่าสหรัฐฯ อาจรวมข้อเสนอเก่ากับข้อเสนอใหม่เพื่อพิจารณาพร้อมกัน และเชื่อว่าจะมีโอกาสลดอัตราภาษีลงจาก 36% แน่นอน”

นายพิชัยกล่าวต่อว่า ไทยได้เสนอเงื่อนไขที่ถือว่ามีความคืบหน้ามาก โดยลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 90% ของรายการที่นำเข้า ซึ่งบางรายการเหลือภาษี 0% แล้ว ยกเว้นบางกลุ่มสินค้าที่จำเป็นต้องคงภาษีไว้เพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทย และรักษาสมดุลทางการค้ากับประเทศที่ไทยมีข้อตกลง FTA ด้วย

ทั้งนี้ การเจรจากับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ยังดำเนินต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ไทยในสหรัฐฯ ได้รับมอบหมายให้ติดตามความคืบหน้าข้อเสนออย่างใกล้ชิด

นายพิชัยยังกล่าวถึงแนวโน้มในระยะยาวว่า ไทยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยลดการพึ่งพาการส่งออก และเพิ่มพลังขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการเกษตรและการท่องเที่ยว ซึ่งควรมีการปรับแผนครั้งใหญ่เพื่อดึงดูดความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“พาณิชย์” ถกด่วนรับมือภาษีทรัมป์ – เร่งช่วย SMEs, จัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับหนังสือจากสหรัฐฯ แจ้งเก็บภาษีไทย 36% ได้มีการหารือเร่งด่วนตลอดคืนกับหน่วยงานในสังกัดเพื่อประเมินผลกระทบ พร้อมเตรียมมาตรการช่วยเหลือ โดยเฉพาะต่อภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนการส่งออกที่สูงขึ้น

มาตรการเบื้องต้น ได้แก่: 
การใช้กองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า
การจัดทำสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยความร่วมมือกับธนาคารของรัฐ
การขยายตลาดส่งออกใหม่ทดแทนตลาดเดิมที่อาจได้รับผลกระทบ

นายจตุพรย้ำว่า การรับมือวิกฤตการค้าครั้งนี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงิน โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมผลักดันมาตรการให้เดินหน้าอย่างรวดเร็วและครอบคลุม

“สภาพัฒน์” ชี้สินค้าบางรายการยังแข่งขันได้ แม้ถูกเก็บภาษีสูง
ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การขึ้นภาษี 36% ของสหรัฐฯ เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามใกล้ชิด และอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจไทย

“แม้ภาษีจะสูงกว่าประเทศอื่น แต่สินค้าบางรายการของไทยยังคงสามารถแข่งขันได้”

นายดนุชาระบุว่า ต้องรอดูว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะออกมาตรการใดเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์นี้ และประเมินว่า GDP ไตรมาส 3 และ 4 อาจยังไม่สะท้อนผลกระทบทั้งหมดในทันที
 

หน้าแรก » การเมือง