วันจันทร์ ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:38 น.

การเมือง

ปลัดดีอีเป็นประธานการประชุมเตรียมการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.40 น.

ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อม ไทยเดินหน้าสู่การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ 

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเข้าเป็นภาคี อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ (United Nations Convention against Cybercrime) ของประเทศไทย ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุม 02/10 ชั้น 2 กระทรวงดิจิทัลฯ

การประชุมดังกล่าวมีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงดิจิทัลฯ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นางสาวกัลยา ชินาธิวร ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ และนางสาวยุพาภรณ์ ศิริกิจพาณิชย์กูล ผู้ช่วยปลัดกระทรวง รวมทั้งตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและความมั่นคงไซเบอร์ เพื่อหารือแนวทางการเตรียมความพร้อมของประเทศให้สอดรับกับมาตรฐานและพันธกรณีระหว่างประเทศ ตามกรอบอนุสัญญาดังกล่าว

การที่ประเทศไทยแสดงเจตจำนงในการเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญานี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับกฎหมายและกลไกการจัดการกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ให้มีประสิทธิภาพและทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ภัยคุกคามทางดิจิทัลมีความซับซ้อนและทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบต่าง ๆ อาทิ การเจาะระบบ การแพร่กระจายมัลแวร์ การฉ้อโกงออนไลน์ และการละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการเข้าเป็นภาคีจะเอื้อให้ประเทศไทยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวกรอง และพยานหลักฐานข้ามพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคจากนานาชาติในการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงไซเบอร์

อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมอนุสัญญาฯ ยังมีความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของอนุสัญญา เช่น การคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล การเก็บพยานหลักฐานดิจิทัล และการใช้มาตรการที่ไม่กระทบต่อเสรีภาพของประชาชนมากเกินไป รวมถึงความจำเป็นในการพัฒนาและเสริมกำลังบุคลากรด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัลให้เพียงพอและทันสมัย

จากการประชุมในครั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ อาจเตรียมผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบาย ได้แก่

  • การจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อติดตาม วิเคราะห์ และเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับพันธกรณี

  • การพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐและผู้บังคับใช้กฎหมายให้มีความรู้ความเข้าใจด้านอาชญากรรมไซเบอร์ในระดับสากล

  • การส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชนและเอกชน

  • การวางกลไกตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างโปร่งใส รอบคอบ และมีส่วนร่วม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศในเวทีดิจิทัลโลกต่อไป

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง