วันจันทร์ ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15:51 น.

การเมือง

"เพื่อไทย"ลั่นแพ้ไม่ได้! ขนทัพใหญ่ช่วย "ภูริกา" ลูกพ่อสมหมาย หาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษเขต 5 ของพรรค

วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.46 น.

การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นสนามการเมืองที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อพรรคเพื่อไทยในเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งในแง่ของการรักษาพื้นที่ฐานเสียงเดิม และการแสดงศักยภาพของพรรคในการคงอิทธิพลทางการเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)

บทความนี้มุ่งวิเคราะห์กลยุทธ์ในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ โดยพิจารณาจากโครงสร้างเชิงบุคคล การเคลื่อนไหวทางการเมือง และการจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างเป็นระบบ

1. บริบททางการเมืองของเขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดศรีสะเกษ
เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ มีความสำคัญในฐานะพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทยที่เคยชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2566 โดย นายอมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.เพื่อไทย ได้รับคะแนน 32,884 คะแนน ชนะ นายธีระ ไตรสรณกุล จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้ 25,837 คะแนน อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ผู้สมัครของทั้งสองพรรคต่างส่ง "ทายาททางการเมือง" เข้าสู่สนามเลือกตั้ง ได้แก่  น.ส.ภูริกา สมหมาย (เพื่อไทย)  น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล (ภูมิใจไทย)

การแข่งขันจึงไม่ได้เป็นเพียงการชิงชัยระหว่างตัวบุคคลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนการปะทะกันทางอุดมการณ์ พรรค และตระกูลทางการเมืองในท้องถิ่นอย่างเข้มข้น

2. กลยุทธ์หาเสียงของพรรคเพื่อไทย
2.1 การระดมบุคลากรระดับแกนนำ
หนึ่งในกลยุทธ์เด่นของพรรคเพื่อไทย คือการส่งบุคลากรระดับรัฐมนตรี และแกนนำพรรค ลงพื้นที่อย่างหนาแน่น โดยมีการเปิดเผยว่ามีบุคคลสำคัญเข้าร่วมหาเสียง เช่น นายสรวงศ์ เทียนทอง (รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา)  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน (รมว.สาธารณสุข) นายสุทิน คลังแสง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ฯลฯ

การระดมกำลังเช่นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองและตอกย้ำถึง "น้ำหนัก" ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับพื้นที่ดังกล่าว อันจะส่งผลต่อการสร้างภาพลักษณ์ของพรรคว่าแข็งแกร่งและพร้อมสนับสนุนพื้นที่ฐานเสียงอย่างเต็มที่

2.2 การเปิดเวทีปราศรัยสองรอบในหนึ่งวัน
การวางตารางเวทีปราศรัยที่ อ.ภูสิงห์ เวลา 09.00 น. และ อ.ขุนหาญ เวลา 13.30 น. แสดงถึงการใช้กลยุทธ์ “เข้าถึงประชาชนเชิงรุก” ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับประชาชน การเลือกเวลาเช้าและบ่ายยังสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่จะว่างเว้นจากภารกิจทางเกษตรกรรมในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้มีแนวโน้มการมีส่วนร่วมสูง

2.3 การใช้ภาพจำทางครอบครัวการเมือง
พรรคเพื่อไทยเลือกส่ง น.ส.ภูริกา สมหมาย บุตรสาวของอดีต ส.ส.อมรเทพ สมหมาย ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม โดยอาศัยฐานเสียงเดิมและความนิยมในตระกูลการเมืองเพื่อรักษาความต่อเนื่องของอำนาจท้องถิ่น กลยุทธ์นี้เป็นการสร้าง “ความไว้วางใจต่อเนื่อง” ที่มีพลังในพื้นที่ชนบท ซึ่งยังคงยึดโยงกับความสัมพันธ์แบบเครือญาติและท้องถิ่นนิยม

2.4 การสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ได้ใช้ เฟซบุ๊ก เป็นช่องทางในการสื่อสารกับประชาชน โดยโพสต์ภาพกิจกรรมหาเสียง พร้อมข้อความกระตุ้นให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้งซ่อม นี่คือกลยุทธ์ที่ใช้ “สื่อสารตรงถึงประชาชน” ในลักษณะของ micro-campaign ซึ่งลดช่องว่างระหว่างพรรคกับประชาชนลงอย่างมีนัยสำคัญ

3. เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของพรรคเพื่อไทย
การรักษาพื้นที่ฐานเสียงเดิม: พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการคงที่มั่นทางการเมืองในเขต 5 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยชนะเลือกตั้ง เพราะการสูญเสียพื้นที่นี้อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และโมเมนตัมทางการเมืองในระดับประเทศ

การป้องกันไม่ให้ภูมิใจไทยขยายฐาน: หากพรรคภูมิใจไทยสามารถแทรกเข้ามาชนะได้ จะหมายถึงการเจาะกำแพงอีสาน ซึ่งเป็นฐานสำคัญของเพื่อไทย และอาจส่งผลต่อการแข่งขันในระดับประเทศในอนาคต

ดังนั้น กลยุทธ์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยในศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 5 ศรีสะเกษ สะท้อนถึงความตั้งใจและน้ำหนักทางยุทธศาสตร์ที่พรรคให้ความสำคัญ ไม่เพียงแต่ใช้แนวทางหาเสียงเชิงรุกผ่านเวทีปราศรัยและการลงพื้นที่ของผู้นำพรรคระดับสูง แต่ยังใช้กลยุทธ์ครอบครัวการเมือง และสื่อสมัยใหม่ในการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งสามารถเพิ่มแรงจูงใจและรักษาความนิยมได้อย่างมีประสิทธิภาพ  หากพรรคเพื่อไทยสามารถรักษาชัยชนะได้อีกครั้งในพื้นที่นี้ ก็จะถือเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งทางโครงสร้างฐานเสียง ขณะเดียวกันหากพ่ายแพ้ จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองในภูมิภาคอีสาน และจะส่งผลต่อสมการการเมืองระดับประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง