“สมศักดิ์” ย้ำไม่ทอดทิ้งน้ำท่วม ยัน สธ.เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง เผยสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 23 แห่ง ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต  ขณะที่ “สุโขทัย - พิษณุโลก” น้ำทะลัก เคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางติดเตียง สั่งจับตาใกล้ชิด - เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำ  

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยหลายพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับรายงานจากพื้น ขณะนี้ได้รับผลกระทบ สะสม 6 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย น่าน พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ สุโขทัย  ยังคงมีสถานการณ์ 4 จังหวัด  เชียงราย น่าน พะเยา สุโขทัย ยังไม่พบผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ 7 ราย จังหวัดได้รับผลกระทบ  32 อำเภอ เชียงราย 15 อำเภอลำปาง 2 อำเภอ สุโขทัย 3 อำเภอ ส่วนสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบสะสม 23 แห่ง แบ่งเป็น รพ. 7 แห่ง  สสอ. 3 แห่ง(เปิดปกติ)  รพ.สต. 13 แห่ง ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบคือจังหวัดน่าน โดยเป็น รพ.สต.น่าน 10 แห่ง เชียงราย 3 แห่ง ส่วนรพ.6 แห่งยังให้บริการได้ แต่รพ.น่านปิดให้บริการ 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ของจังหวัดสุโขทัย ล่าสุด ได้รับรายงาน เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนและทางสัญจรในพื้นที่ ต.วังทอง และ ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง กระทบต่อประชาชนประมาณ 180 คน และ พนังกั้นริมแม่น้ำยมพังทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนและทางสัญจรในพื้นที่ ต.ธานี ต.ปากแคว และ ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย กระทบต่อประชาชนประมาณ 1,000 คน น้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนใน ต.คลองมะพลับ อ.ศรีนคร กระทบประชาชน 3 คน  ทั้ง 3 อำเภอ ไม่มีหน่วยบริการหรือหน่วยงานทางการแพทย์และสาธารณสุขได้รับผลกระทบจึงได้สั่งการลงไปยังพื้นที่ โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย ร่วมกับ รองผอ.โรงพยาบาลสุโขทัยและโรงพยาบาลศรีสังวร สุโขทัย และทีมสหวิชาชีพ ได้เข้าเยี่ยมประชาชนและสั่งการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ติดเตียงไปดูแลที่โรงพยาบาลหรือศูนย์พักพิง  มอบชุดยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรองไว้ 1,000 ชุด โดยเขตสุขภาพที่ 2 ได้สำรองชุดยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยไว้อีก 3,600 ชุด ทั้งนี้ ได้สั่งการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมยาและเวชภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมกันนี้โรงพยาบาลสุโขทัย จะต้องเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ป้องกันน้ำหลากเข้าโรงพยาบาล จัดเตรียมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อออกให้บริการประชาชน หากมีภาวะน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน  
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนจ.พิษณุโลก มีรายงานว่ากำลังเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำยม ที่คาดการณ์ว่ามวลน้ำจะถึง อ.บางระกำ ในวันนี้ เตรียมแผนในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง และ เตรียมยาและเวชภัณฑ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 300 ชุดพร้อมทั้งเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (EOC) เพื่อเตรียมรองรับสถานการ์แล้ว 3 จังหวัด สุโขทัย พิษณุโลกและอุตรดิตถ์) โดยขอให้ทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์และรายงานเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนดูแลสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางให้ปลอดภัย เน้นประเมินสถานการณ์และการเคลื่อนย้ายก่อนวิกฤติ สำรองยาและเวชภัณฑ์ หากขาดแคลนจะประสานสนับสนุนระหว่างจังหวัดในเขตสุขภาพ

“รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยและยังคงเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้จัดเตรียมเวชภัณฑ์ ยาต่างๆ ที่ต้องใช้ช่วงจำเป็น  อาทิ ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า ยาทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ยารักษาโรคระบบทางเดินหายใจ ยารักษาโรคระบบทางเดินอาหาร ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้แพ้ ยาสำหรับผู้ป่วยเด็ก ยาสามัญประจำบ้าน ได้จัดส่งเข้าไปในพื้นที่เป็นระยะ โดยให้พื้นที่ประสานกับองค์การบริหารส่วนตําบลเพื่อช่วยจัดส่งให้กับผู้ป่วยที่บ้าน หรือศูนย์พักพิง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างต่อเนื่อง และสั่งการให้เตรียมแผนการหลังน้ำลดด้วย ทั้งเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดบ้านเรือน การเฝ้าระวังโรคระบาดที่มากับน้ำ โรคท้องร่วง โรคผิวหนัง และให้สำรวจความเสียหายของสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบด้วยผ”นายสมศักดิ์กล่าว