"แพทองธาร" ไม่แปลกใจกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เตรียมแจ้งประเทศพยาน-รอรัฐบาลแถลงอย่างเป็นทางการ ทางด้าน "ภูมิธรรม"  รับยังมีปะทะหลังเวลาเจรจาหยุดยิง ชี้ทหารไทยมีวินัย – กัมพูชาไร้ความจริงใจ  ขณะที่พลโทหญิงมาลีโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลง "ไม่มีเสียงปืน" หลังเที่ยงคืน – เชื่อเป็นก้าวแรกของความสำเร็จ 

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่กัมพูชาฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามร่วมกัน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยระบุว่า “เราไม่ได้แปลกใจกับความไม่สุภาพบุรุษอยู่แล้ว” พร้อมเตรียมแจ้งให้ประเทศที่ร่วมเป็นพยานในการเจรจาทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการแถลงการณ์ของรัฐบาลอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีตอบว่า จะประสานกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนดังกล่าว

“ภูมิธรรม” รับยังมีปะทะหลังเวลาเจรจาหยุดยิง ชี้ทหารไทยมีวินัย – กัมพูชาไร้ความจริงใจ
ในวันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ไทย-กัมพูชาจะตกลงหยุดยิงในเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 28 กรกฎาคม แต่เช้าวันที่ 29 กรกฎาคม ยังพบว่ามีการปะทะประปรายตามแนวชายแดน โดยย้ำว่า ทหารไทยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมีวินัย ขณะที่ฝั่งกัมพูชาไม่มีความจริงใจต่อข้อตกลง และในเวลา 10.00 น. แม่ทัพภาคของทั้งสองประเทศจะหารือร่วมกันเพื่อยืนยันจุดยืนในการหยุดยิงอย่างแท้จริง

นายภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า ข้อเสนอของกองทัพบกไทย 6 ข้อ ได้รับการนำเข้าสู่การเจรจาและเป็นที่ยอมรับในที่ประชุม พร้อมขอบคุณวีรกรรมของทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และจะมีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อดูแลสวัสดิการของกำลังพลเป็นกรณีพิเศษ

“เรื่องนี้จะเป็นบทเรียนว่า ประเทศชาติต้องมีทหารไว้เพื่ออะไร หากไม่มีทหาร เรื่องนี้คงแย่กว่านี้” นายภูมิธรรมกล่าว

อย่างไรก็ตาม เขาได้ปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่ได้โยนภาระให้ทหารรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นการทำงานร่วมกันของทั้งรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และ 4 เหล่าทัพอย่างเป็นเอกภาพ และย้ำว่าการหยุดยิงไม่มีเงื่อนไขนั้น เพื่อให้หยุดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยไม่ได้หมายถึงการละทิ้งข้อเรียกร้องเรื่องอาวุธหนักแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายภูมิธรรมยังเปิดเผยว่า รัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชาได้ติดต่อมายังตนด้วยตนเอง และอยู่ระหว่างการประสานให้มีการพูดคุยเพิ่มเติมผ่านช่องทางทวิภาคี

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการยกระดับข้อกล่าวหาต่อกัมพูชาในฐานะอาชญากรสงคราม นายภูมิธรรมระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเรื่องนี้ และต้องรอผลการพูดคุย โดยย้ำว่าฝ่ายที่ละเมิดต้องรับผลจากการกระทำของตนเองในท้ายที่สุด

กัมพูชาแถลง "ไม่มีเสียงปืน" หลังเที่ยงคืน – เชื่อเป็นก้าวแรกของความสำเร็จ
ในเวลาใกล้เคียงกัน พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงที่กรุงพนมเปญว่า การปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาได้ยุติลงแล้วอย่างสมบูรณ์ตามข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข โดยไม่ได้ยินเสียงปืนใด ๆ ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม จนถึงเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม

เธอยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังจากพื้นที่ประจำการ และจะมีการตั้งคณะทำงานระดับทวิภาคีเพื่อเดินหน้าการเจรจาในรายละเอียด โดยย้ำว่าข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็น “ก้าวแรกสู่สันติภาพอย่างเป็นรูปธรรม”