เมื่อวันที่ 30  กรกฎาคม 2568   คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ พร้อมด้วย นายชลัฐ รัชกิจประการ (พรรคภูมิใจไทย) และ นายอัคร ทองใจสด (พรรคพลังประชารัฐ) เดินสายพบ คณะทูตสหภาพยุโรป และ ทูตสหราชอาณาจักร เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

แจงสาเหตุปะทะ: ปมผลประโยชน์ – กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์
น.ส.สรัสนันท์ ระบุว่า การหารือกับคณะทูตทั้ง 18 ประเทศในกลุ่มอียู รวมถึงทูตอังกฤษ ได้รับความห่วงใยต่อสถานการณ์ โดยหลายประเทศเรียกร้องให้ ไทย-กัมพูชาใช้ช่องทางสันติในการเจรจา แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขแล้ว แต่ยังพบอุปสรรคในทางปฏิบัติ

ต่อข้อสงสัยของคณะทูตว่าเหตุใดความขัดแย้งจึงปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน น.ส.สรัสนันท์อธิบายว่า มีหลายปัจจัย โดยเฉพาะ “การกระทบผลประโยชน์” ฝ่ายกัมพูชา เช่น ความเข้มงวดของไทยในการ กวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ซึ่งส่วนหนึ่งมีฐานปฏิบัติการฝั่งกัมพูชา และนโยบาย Entertainment Complex ที่อาจกระทบผลประโยชน์บางฝ่ายในกัมพูชาโดยตรง

กังวลต่างชาติเข้าแทรก – ย้ำไทยต้องไม่ตกเป็นสมรภูมิตัวแทน
คณะทูตยังตั้งข้อสังเกตกรณี จีนและสหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทในการสังเกตการณ์ แม้ไม่ได้อยู่ในกรอบอาเซียน โดยไทยให้ความเห็นว่า หากการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชาไม่สามารถหาทางออกได้ ควรพึ่งกลไกในภูมิภาค เช่น อาเซียน มากกว่าปล่อยให้มหาอำนาจเข้ามาแทรกซ้อนจนกลายเป็น “สงครามตัวแทน”

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวชัดว่า “ประเทศไทยต้องไม่ตกเป็นเวทีของการแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และขอยืนยันว่าเราไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ต้องการเพียงมิตรประเทศที่ยืนอยู่บนหลักความถูกต้องและข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดบิดเบือน และยุติการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือน”

สร้างความเชื่อมั่น – พร้อมใช้เวทีโลกสื่อสารจุดยืนไทย
แม้คณะทูตจะยึดหลักความเป็นกลางและรับฟังทั้งสองฝ่าย แต่ น.ส.สรัสนันท์ ระบุว่า ท่าทีของประเทศพันธมิตรยังคงเชื่อมั่นในประเทศไทย โดยเฉพาะการแถลงข่าวอย่างเป็นระบบจากกองทัพไทย ซึ่งใช้ข้อมูลจากหลักฐานที่ตรวจสอบได้

เธอยังกล่าวว่า กมธ.ต่างประเทศเตรียมเดินหน้า ใช้เวทีรัฐสภานานาชาติ เช่น การประชุม สหภาพรัฐสภาโลก (IPU) และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ตามข้อเท็จจริง ย้ำว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด

“เราต้องการสื่อสารความจริงอย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ต้องการโหมกระแส แต่ขอให้โลกเห็นว่าประชาชนบริสุทธิ์กำลังตกเป็นเหยื่อ และเราจะไม่ยอมให้เรื่องนี้กลายเป็นการเมืองของชาติอื่น”  น.ส.สรัสนันท์  กล่าว