วันที่ 31 กรกฎาคม 2568  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังมีเหตุปะทะว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยในศูนย์อพยพเดินทางกลับบ้านได้ โดยต้องรอการประเมินความปลอดภัยอย่างรอบคอบ แม้รัฐบาลจะมีความห่วงใยประชาชนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกรณีที่มีรายงานการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายภายในศูนย์อพยพ

นายภูมิธรรมระบุว่า แม้กัมพูชาจะประกาศหยุดยิง แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้เต็มที่ เพราะมีประวัติการบิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการพาผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศเข้าพื้นที่ ซึ่งอาจสะท้อนความมั่นใจของกัมพูชาว่าจะไม่ถูกตอบโต้ อย่างไรก็ตาม ไทยยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนในการชี้แจงต่อประชาคมโลก และมีการหารือกับนานาชาติอย่างต่อเนื่องในกรอบการทูต

ประเด็นทหารกัมพูชา 18 นาย

สำหรับกรณีการควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกจับกุมหลังการประกาศหยุดยิง นายภูมิธรรมชี้แจงว่า กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ทหารเหล่านี้ลักลอบเข้ามา หากพบว่าเป็นการละเมิดหลังการหยุดยิง จะมีผลต่อขั้นตอนการปล่อยตัว

ทั้งนี้ การที่กัมพูชาโพสต์ข้อความในลักษณะกล่าวหาว่าฝ่ายไทยลักพาตัวทหาร เป็นเหตุให้ไทยจำเป็นต้องระงับการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศ

ปฏิกิริยาระหว่างประเทศ

นายภูมิธรรมยังเปิดเผยว่า ประเทศจีน รวมถึงอินโดนีเซียและสหรัฐฯ ต่างแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้แนวทางสันติวิธี โดยจีนได้หารือร่วมกับผู้แทนไทยและกัมพูชาในนครเซี่ยงไฮ้ด้วยท่าทีเป็นกลาง

ข้อกล่าวหาการยึดปราสาทตาควาย

เมื่อถูกถามถึงสถานการณ์บริเวณปราสาทตาควาย นายภูมิธรรมปฏิเสธให้รายละเอียด แต่ยืนยันว่าไทยสามารถรักษาอธิปไตยได้ในระดับที่น่าพอใจ และถือว่าประสบความสำเร็จเชิงยุทธศาสตร์ในหลายพื้นที่

รมช.กลาโหมแจงดูแลทหารกัมพูชาอย่างเป็นมนุษยธรรม – ปัดข้อกล่าวหาลักพาตัว
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ยืนยันว่า ทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัว ได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรม ทั้งอาหาร การรักษา และความสะอาด พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาการลักพาตัวโดยชี้ว่ามีการสอบสวนและบันทึกคำให้การไว้ชัดเจน

“แม้ฝ่ายตรงข้ามจะบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่ไทยจะตอบโต้ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง แม้จะช้ากว่าแต่จะมีน้ำหนักมากกว่า” พล.อ.ณัฐพลกล่าว

แผนนำทูตทหารลงพื้นที่

สำหรับกรณีกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ พล.อ.ณัฐพลระบุว่า ไทยมีแผนดำเนินการเช่นกันในวันที่ 1 สิงหาคม โดยประสานไปยังกว่า 15 ประเทศ เพื่อแสดงความโปร่งใส แต่จะรอให้มั่นใจว่าฝ่ายกัมพูชาหยุดยิงจริง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระหว่างการเยือนของทูต

การสื่อสารต้องแม่นยำ – ขอความร่วมมือสื่อมวลชน
พล.อ.ณัฐพลยอมรับว่าการสื่อสารของ ศบ.ทก. ยังมีข้อจำกัด โดยจะพัฒนาให้ดีขึ้นทั้งในภาษาไทย อังกฤษ และจีน พร้อมขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของการโฆษณาชวนเชื่อจากต่างประเทศ

"ทหารอาจไม่ถนัดด้านสื่อสาร แต่สื่อมวลชนมีขีดความสามารถ ขอให้ช่วยกันใช้ข้อเท็จจริงตอบโต้ข่าวเท็จเพื่อประโยชน์ของประเทศ" เขากล่าว