วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568 13:20 น.

การเมือง

วิเคราะห์บทบาทโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสาของ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ด้านต้านเฟคนิวส์

วันศุกร์ ที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 15.08 น.

บทบาทของโฆษกในสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา มีความสำคัญต่อการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องและการรับมือกับข่าวปลอม (เฟคนิวส์) การแต่งตั้ง “บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” อดีตนางสาวไทยและนักทำงานด้านสังคม เป็นโฆษกจิตอาสาของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.)

สะท้อนถึงการใช้พลังของบุคคลสาธารณะ (Public Figure) และ Soft Power ในการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ บทความนี้วิเคราะห์บทบาทดังกล่าวในมิติของที่มาของอำนาจ (Source of Power) กลยุทธ์การสื่อสาร (Communication Strategy) และศักยภาพในการต้านเฟคนิวส์ โดยเปรียบเทียบกับแนวทางของโฆษกฝ่ายกัมพูชา พลโทหญิง มาลี โสเจียตา เพื่อทำความเข้าใจยุทธวิธีการสื่อสารในบริบทความมั่นคง

1. บทนำ
สถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาในช่วงกลางปี 2568 ไม่เพียงเป็นประเด็นด้านความมั่นคง หากยังเป็นสนามแข่งขันด้านการสื่อสารระหว่างสองรัฐ การแต่งตั้งโฆษกเพื่อ “ชน” กับอีกฝ่ายไม่ใช่เพียงการตอบโต้ข้อมูล แต่เป็นการจัดการการรับรู้ของสาธารณะและนานาชาติ ภายใต้กระแสข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและเต็มไปด้วยเฟคนิวส์ การเลือกบุคคลที่มีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในสังคม เช่น บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี มารับบทบาทนี้ จึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในเชิงการสื่อสารและการเมือง

2. กรอบแนวคิดการวิเคราะห์
การวิเคราะห์บทบาทโฆษกครั้งนี้ใช้กรอบแนวคิด 3 มิติ ได้แก่

ที่มาของอำนาจ (Source of Power) – วิเคราะห์ว่าอำนาจในการสื่อสารของโฆษกมาจากตำแหน่งหน้าที่ทางการ หรือจากความน่าเชื่อถือส่วนบุคคล

กลยุทธ์การสื่อสาร (Communication Strategy) – วิเคราะห์วิธีการและแนวทางในการเผยแพร่ข้อมูลและตอบโต้ข่าวสาร

บทบาทด้านการต้านเฟคนิวส์ (Counter Fake News Role) – พิจารณาศักยภาพและข้อจำกัดในการลดอิทธิพลของข่าวปลอม

3. ภูมิหลังและโปรไฟล์ของบุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
บุ๋ม-ปนัดดา เป็นนางสาวไทยประจำปี 2543 มีการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจและประสบการณ์ด้านสื่อมวลชนและงานสังคม เธอก่อตั้ง “มูลนิธิองค์กรทำดี” เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเหตุการณ์ต่าง ๆ จนได้รับฉายา “นางฟ้าขาลุย” การแต่งตั้งเธอเป็นโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. สะท้อนถึงการดึงพลังของ Soft Power และความนิยมในสังคมมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารกับประชาชนและนานาชาติ

4. การเปรียบเทียบกับโฆษกฝ่ายกัมพูชา
ในฝั่งกัมพูชา พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหม มีฐานะและอำนาจจากโครงสร้างรัฐและกองทัพ การสื่อสารของเธอมีลักษณะทางการและเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคง ในขณะที่บุ๋ม-ปนัดดาได้รับการแต่งตั้งในฐานะโฆษกจิตอาสา ซึ่งอำนาจมาจากความนิยมส่วนบุคคลและการยอมรับจากสาธารณะ

ความแตกต่างหลัก

มาลี: อำนาจจากตำแหน่งราชการและโครงสร้างกองทัพ → เน้นการสื่อสารที่มีความเป็นทางการสูง

บุ๋ม: อำนาจจากความน่าเชื่อถือส่วนบุคคล → เน้นความเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย และเชื่อมโยงกับประชาชน

5. บทบาทด้านการต้านเฟคนิวส์
จากคำให้สัมภาษณ์ “ไม่กลัวเฟคนิวส์” บุ๋ม-ปนัดดาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะนำเสนอข้อมูลจากภาครัฐและข้อมูลภาคสนามที่ตรวจสอบแล้วเท่านั้น การมีเพจหรือช่องทางโซเชียลมีเดียของเธอ ช่วยขยายการสื่อสารไปถึงกลุ่มผู้ติดตามจำนวนมาก และสร้างความไว้วางใจในข้อมูลทางการที่ผ่านการกลั่นกรอง

ศักยภาพ

เครือข่ายผู้ติดตามในโลกออนไลน์

ภาพลักษณ์ตรงไปตรงมาและมีประวัติการช่วยเหลือสังคม

ความสามารถเชื่อมต่อระหว่างสื่อ ทหาร และประชาชน

ข้อจำกัด

อาจถูกวิจารณ์ว่าขาดประสบการณ์ในงานโฆษกด้านความมั่นคง

เสี่ยงถูกโจมตีทางการเมืองหากข้อมูลที่เผยแพร่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงบางส่วน

6. กลยุทธ์การสื่อสารที่คาดว่าจะใช้
สื่อสารแบบสองทาง (Two-way Communication) – รับฟังปัญหาจากพื้นที่และนำข้อมูลไปสู่หน่วยงาน

ใช้บุคลิกและภาพลักษณ์สร้างการยอมรับ – เน้นความจริงใจและความเป็นกันเอง

เน้นเนื้อหาสร้างความเข้าใจร่วม (Common Understanding) – ลดความตึงเครียดด้วยการนำเสนอข้อเท็จจริงพร้อมมิติด้านมนุษยธรรม

ตอบโต้ข่าวปลอมอย่างรวดเร็ว (Rapid Response) – ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือหลัก

7. สรุป
การแต่งตั้งบุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. แสดงให้เห็นการผสมผสาน Soft Power เข้ากับยุทธศาสตร์ความมั่นคง โดยใช้ความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะเพื่อสร้างการสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนและตอบโต้เฟคนิวส์อย่างรวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดด้านประสบการณ์ในงานโฆษกสายความมั่นคง แต่ความสามารถในการสร้างการรับรู้เชิงบวกและความไว้วางใจจากสังคม ทำให้บทบาทของเธอมีศักยภาพสูงในสถานการณ์ที่การสื่อสารคือเครื่องมือสำคัญของรัฐ
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง