การเมือง
"ณพลเดช" ซัดตำรวจออกหนังสือขอข้อมูลพระ ละเมิด PDPA – ชี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ที่ปรึกษากมธ.ศาสนาฯ เตือนหากปล่อยสถานการณ์บานปลาย อาจกระทบความสัมพันธ์พระ–ตำรวจ เสื่อมศรัทธาภาพลักษณ์เจ้าหน้าที่รัฐ
วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ดร.ณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ได้ออกมาเปิดเผยและวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่สถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อยออกหนังสือขอข้อมูลจากวัดสุวรรณาราม โดยมีเนื้อหาขอข้อมูลส่วนบุคคลของพระ รวมถึงมูลนิธิและหน่วยงานอื่น ๆ ภายในวัด ซึ่งในหนังสือดังกล่าวระบุให้เจ้าอาวาสวัดสุวรรณารามจัดส่งข้อมูลพระสงฆ์พร้อมภาพถ่าย เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ภายในวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568
ดร.ณพลเดช กล่าวถึงหนังสือดังกล่าวว่า หนังสือที่ออกโดยสถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย อ้างถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 222/2568 ซึ่งเป็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการ แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว คณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นนั้นไม่ได้อนุมัติแบบฟอร์มให้มีการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเช่นที่ตำรวจร้องขอ อีกทั้งยังขัดกับมติมหาเถรสมาคมที่ 620/2568 เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับการบริหารศาสนสมบัติของวัด ที่ระบุชัดเจนว่า “บัญชีธนาคารซึ่งเป็นบัญชีส่วนบุคคลนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจขอความร่วมมือในการตรวจสอบได้เฉพาะในกรณีเจ้าของบัญชียินยอม” เท่านั้น
ดร.ณพลเดช ย้ำว่า การที่ตำรวจขอข้อมูลส่วนบุคคลของพระสงฆ์ เช่น เลขบัตรประชาชน ภาพถ่าย และเลขบัญชีธนาคาร ถือเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) โดยเฉพาะมาตรา 32 ที่ให้สิทธิแก่เจ้าของข้อมูลในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และยังมีสิทธิในการถอนความยินยอมตามมาตรา 19 (วรรคห้า) หากเคยให้ข้อมูลไปแล้ว
สำหรับประเด็นนี้ ดร.ณพลเดช ระบุว่าเป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนและความกังวลให้กับพระสงฆ์จำนวนมาก เพราะข้อมูลที่ถูกร้องขอมีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม หรืออาจตกไปถึงมือมิจฉาชีพได้ หากไม่มีการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังมีเสียงสะท้อนจากพระสงฆ์ในหลายพื้นที่ว่าการขอข้อมูลในลักษณะนี้สร้างความไม่สบายใจ และทำให้เกิดความระแวงต่อเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจ
ดร.ณพลเดช ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีประเด็นความขัดแย้งระหว่างพระสงฆ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก โดยบางส่วนถึงขั้นมีแนวโน้มที่จะไม่สนับสนุนกิจกรรมของตำรวจในทุกกรณี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานร่วมกันของตำรวจในพื้นที่และการสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและสังคม
“ผมขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเร่งประสานงานและสร้างความเข้าใจระหว่างพระสงฆ์กับตำรวจ เพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าว เพราะหากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ และทำให้เกิดความขัดแย้งในวงกว้างระหว่างพระสงฆ์กับตำรวจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทย” ดร.ณพลเดช กล่าว
จากการตรวจสอบเอกสารแนบที่ตำรวจส่งไปยังวัด พบว่ามีการร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลอย่างละเอียด เช่น ชื่อพระ ชื่อเล่น/ฉายา เลขบัตรประชาชน วันบวช อายุ ปีพรรษา สัญชาติ เบอร์โทรศัพท์ รวมถึงเลขบัญชีธนาคารถึง 3 บัญชี ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลตามกฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัด และต้องมีการคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวไม่ให้รั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ในทางที่มิชอบ
นอกจากนี้ ในเอกสารมติมหาเถรสมาคมที่แนบมาด้วย ยังระบุแนวปฏิบัติสำหรับการบริหารศาสนสมบัติของวัดไว้อย่างชัดเจน โดยให้เจ้าอาวาสเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด และเน้นเรื่องความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ไม่ลดทอนอำนาจของเจ้าอาวาสหรือแทรกแซงกิจการของวัดโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังให้ทุกวัดดำเนินการเปิดเผยข้อมูลบัญชีรายรับ รายจ่าย และยอดเงินคงเหลือต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตามรอบการรายงานที่กำหนด
ในส่วนของบัญชีธนาคารที่เป็นบัญชีส่วนบุคคล มติมหาเถรสมาคมยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าตรวจสอบได้เฉพาะในกรณีที่เจ้าของบัญชีให้ความยินยอม หรือในกรณีที่มีการกระทำผิดทางอาญาและดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายแล้วเท่านั้น
ดร.ณพลเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนทราบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดในหลายพื้นที่หลายจังหวัด การดำเนินการของตำรวจในกรณีนี้จึงถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจละเมิดสิทธิพื้นฐานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนแนวทางปฏิบัติและยึดถือหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระสงฆ์กับเจ้าหน้าที่รัฐ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- เจ้าคณะอำเภอเขื่องในลาออก ปมดราม่าตำรวจขอข้อมูลพระ – ผู้ช่วยรัฐมนตรีจี้ทบทวน หวั่นละเมิดสิทธิ PDPA 9 ส.ค. 2568
- พระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิเตรียมยื่นหนังสือ รมต.สุชาติ-ดร.มหานิยม ขอทบทวนอำนาจตำรวจตรวจบัญชีวัด หวั่นกระทบภาพรวมสงฆ์ 9 ส.ค. 2568
- "ณพลเดช" ซัดตำรวจออกหนังสือขอข้อมูลพระ ละเมิด PDPA – ชี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 9 ส.ค. 2568
- เลขาธิการ กกต. ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 9 ส.ค. 2568
- "เอกนัฏ" ส่งสุดซอย บุกโกดังผู้นำเข้าหลอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ย่านบางขุนเทียน ส่งขายคลองถมราคาถูก เตารีด – พัดลมไม่มี มอก. 9 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"บุ๋ม ปนัดดา" เริ่มแล้ว! ประณามกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในเขตไทย ละเมิดอนุสัญญา–ข้อตกลงหยุดยิง ยังไม่มีอะไรฝากถึง "มาลี" 21:23 น.
- ปัญหาชายแดนคลี่คลาย! "ภูริกา" เบอร์ 1 เพื่อไทย รุกหาเสียงเลือกซ่อมศรีสะเกษ เขต 5 ลุยเปิดเวทีรับฟังปัญหาถึงชุมชน 20:39 น.
- "เฮง รัตนา" อ้างทหารไทยเหยียบระเบิดตกค้าง ยกข้อตกลง GBC ไม่เคลื่อนย้ายกำลัง-ลาดตระเวนที่ตั้งอีกฝ่าย 20:27 น.
- “มาลี” ยังไม่ได้รับรายงานทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ยันเคารพข้อตกลงหยุดยิง หวังว่าไทยจะไม่เคลื่อนกำลัง 19:50 น.
- "มนพร" รมช.คมนาคม มอบสไบเบี่ยงขาว หนุนสวมชุดพื้นเมือง เข้าวัดฟังธรรม สืบสานประเพณี กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ชุมชน 18:29 น.