เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วาระ 2 และวาระ 3 หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เสร็จสิ้นการพิจารณาแล้ว

ที่ประชุมรับทราบมติปรับลดงบประมาณรวม 8,920 ล้านบาท โดยกระทรวงและหน่วยงานที่ถูกปรับลดมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานรัฐสภา กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยงบที่ถูกปรับลดได้นำไปจัดสรรให้หน่วยงานที่จำเป็น เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง และงบกลาง รวมถึงเพิ่มในแผนงานบูรณาการและแผนงานบุคลากรภาครัฐ

กรอบการพิจารณากำหนดระหว่างวันที่ 13–15 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00–23.30 น. โดยลงมติวาระ 3 ในวันที่ 15 สิงหาคม ก่อนส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค ย้ำให้ ส.ส. ทุกคนอยู่ร่วมเป็นองค์ประชุมครบทั้ง 3 วัน พร้อมเซ็นชื่อก่อน 09.00 น. เพื่อเปิดประชุมตรงเวลา เน้นความสำคัญขององค์ประชุมเพราะฝ่ายค้านประกาศไม่ร่วม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส. พรรค ย้ำให้ช่วยกันดูแลเพื่อน ส.ส. ให้แสดงตนครบในการโหวตรายมาตรา มั่นใจว่าองค์ประชุมไม่ล่ม และพิจารณางบฯ จบใน 3 วัน พร้อมปฏิเสธข่าวลือเรื่อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ โดยยืนยันว่านายกฯ จะไม่ลาออกและยังมีขวัญกำลังใจดี

ในรายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เสนอให้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ทุกวัดจัดทำและเปิดเผยบัญชีรายรับ–รายจ่าย และเงินบริจาคต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต รวมถึงเสนอให้พระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินทุก 3 ปี

คณะกรรมาธิการฯ ยังแนะให้ถอดบทเรียนจากกรณีทุจริตในอดีต เพื่อพัฒนามาตรการป้องกันและปราบปรามให้เข้มงวดขึ้น พร้อมตรวจสอบการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของวัดอย่างรอบคอบ ป้องกันการนำไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การพนันออนไลน์ หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและกฎหมาย พร้อมส่งเสริมให้วัดมีระบบการเงินที่โปร่งใสและให้ความรู้แก่พระสงฆ์ในการใช้เงินทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง