เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568   นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือของวิป 2 ฝ่าย เพื่อพิจารณาเรื่องการกำหนดวันประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากมีสมาชิก 20 ราย ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 6 ต่อ 3 เสียง ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญที่อาจส่งผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวคือเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ จึงอาจก่อให้เกิดผลทางกฎหมายในการพิจารณา และวินิจฉัยที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ แม้จะมีการชี้แจงจากศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังคงเป็นเพียงแค่กระแสข่าว ที่ประชุมจึงเห็นตรงกันให้รอเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ และถูกต้องตามข้อบังคับและกฎหมาย

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยทูลเกล้าฯ เสนอให้มีการยุบสภานั้น นายฉลาด ระบุว่า ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้เพราะยังเป็นเพียงแค่กระแสข่าว และแม้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะออกมาแถลงข่าวยืนยันแล้ว แต่ยังไม่มีเอกสารหรือประกาศอย่างเป็นทางการ

นายฉลาด กล่าวต่อไป ส่วนตัวเข้าใจว่าประเทศชาติยังต้องมีผู้บริหารประเทศ แต่หากจะเลือกโดยความบริสุทธิ์ชอบธรรมบนพื้นฐานของข้อบังคับและข้อกฎหมาย ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาทวงติงอำนาจได้ ทุกฝ่ายก็เห็นตรงกันว่าควรรอให้มีความกระจ่าง ก่อนจะนัดหมายมาหารือกันอีกครั้งวันนี้ในเวลา 15.00 น. และคาดจะแล้วเสร็จก่อนเวลา 16.00 น.

อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง และไม่มีเรื่องอื่นๆ ก็คาดว่าจะสามารถนัดประชุมสภาฯ เพื่อกำหนดวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายนนี้