วันเสาร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568 03:42 น.

การเมือง

โหวตนายกฯวันเดียวจบ! สภาฯ หนุน "อนุทิน"  นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 คะแนนขาด 311 ต่อ 152

วันศุกร์ ที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.53 น.

การโหวตนายกรัฐมนตรีจบลงภายในวันเดียว เสียงส่วนใหญ่ หนุน "อนุทิน " ขึ้นแท่นผู้นำรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมภารกิจแก้ปัญหาประเทศ 

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568  ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม โดยวันนี้มีวาระที่ต้องจับตาคือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ซึ่งจะมีการเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย

การประชุมดำเนินมาถึงเวลา 11.30 น.ประธานได้ตรวจสอบองค์ประชุมผลปรากฏว่าครบองค์ประชุมและลงมติให้เลื่อนวาระและเข้าสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยมีการเสนอชื่อนายอนุทิน  และนายชัยเกษม  ให้สมาชิกเลือก  จากนั้นได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายได้ 2 ชั่วโมง แบ่งกันฝ่ายละ 1 ชั่วโมง 

จนกระทั้งเวลา 14.55 น. สมาชิกได้อภิปรายแสดงความเป็นครบแล้ว ประธานได้ให้สมาชิกลงคะแนนอย่างเปิดเผย ผลปรากฎว่า  เสียงส่วนใหญ่เห็นชอบให้นายอนุทินดำรงตำแหน่งนายรัฐมนตรีคนที่ 32  โดยมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งจำนวน  311 ต่อ 152 คะแนน งดออกเสียง 27  

ต่อบุญ ต่อชีวิต หัวใจติดปีกภารกิจนอกการเมืองของ “อนุทิน”

ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งอะไร แต่สิ่งหนึ่ง ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ปฏิบัติเสมอมา คือ ภารกิจหัวใจติดปีก หรือการสนับสนุนทีมแพทย์ บินรับส่งอวัยวะ เพื่อต่อชีวิตผู้ป่วยที่รอการช่วยเหลือ

ห้องผ่าตัดที่รอ “หัวใจ” ซึ่งต้องมาถึงให้ทันเวลา ชีวิตหนึ่งกำลังส่งต่อบุญสุดท้าย ชีวิตอีกหนึ่งกำลังรอเริ่มต้นใหม่ 

และตรงกลางของสองเส้นทางนั้น คือนักบินอาสาที่ชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล”

ภาพจำของเขาในสายตาสาธารณะอาจเป็นนักการเมืองผู้ลุยงาน พูดสั้น ตรง ประคับประคองสถานการณ์

และวันนี้ เขาคือว่าที่นายกรัฐมนตรี

สังคมจำชื่อนายอนุทิน โดยผูกโยงกับเรื่องราวของการเมือง และเกมอำนาจ 

แต่อีกมุมหนึ่ง นายอนุทิน คือ สารถีชีวิต 

ผู้พาหัวใจให้ข้ามฟ้า แข่งกับเข็มนาฬิกา แข่งกับระยะทาง และแข่งกับความหวังของครอบครัวสองฝั่งที่ส่งต่อกันด้วยน้ำตาและความรักไร้เงื่อนไข

ภารกิจหัวใจติดปีกเริ่มต้นช่วงปลายปี 2557 จากคำขอที่เรียบง่าย “ช่วยบินให้หน่อยครับ” 

นายแพทย์พัชร อ่องจริต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทรไปกลางดึกปลายสายคือนายอนุทิน เพื่อนในวัยเด็ก

มันเป็นคำขอ ที่ไม่มีพิธีรีตอง 

“ช่วยบินไปจังหวัดอุดรธานีให้หน่อยได้ไหมครับ มีความจำเป็นมาก หาการสนับสนุนจากสายการบินไหนไม่ได้เลย ไม่มีไฟล์ท หน่วยงานราชการก็ไม่สะดวก มีเคสต้องไปรับหัวใจจากจังหวัดอุดรธานี มากรุงเทพฯ คืนนี้ตอน 5 ทุ่มกว่าๆ พอจะสะดวกไปไหม?”

ปลายสายตอบตกลงในทันที และนี่คือภารกิจหัวใจติดปีก

ที่ดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน 

จวบถึงวันนี้ ภารกิจข้างต้นมีอายุกว่า 10 ปี 

นายอนุทิน บินไปแล้วกว่า 70 ไฟล์ทบิน ช่วยเหลือผู้ป่วยไปแล้วกว่า 200 ชีวิต

นายอนุทิน ยินดีเสมอ ในการช่วยเหลือทีมแพทย์ 

นายอนุทิน ปฏิเสธ ที่จะหาความสุขผ่านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเตรียมพร้อมร่างกาย หากมีสายจากนายแพทย์พัชร นายอนุทิน จะไม่มีทางปฏิเสธ ความปรารถนา ที่เข้ามา

“ผมเป็นแค่คนขับ คนทำงานจริงๆ คือหมอ” ประโยคสั้นๆ ที่เหมือนแสงไฟส่องลงบนทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ภาคพื้น ฯลฯ ผู้เป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบชีวิต

ส่วนนายอนุทิน ขอกลับไปทำหน้าที่สารถีชีวิต ต่อบุญคนตาย ต่อชีวิตคนเป็น

นี่คือภารกิจที่นายอนุทิน เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง “สภากาชาดไทย” ได้มอบโล่ให้นายอนุทิน เพื่อเชิดชูภารกิจ “หัวใจติดปีก” 

ไปจนถึงการรับปีกนักบิน กิตติมศักดิ์ ทร.จากพลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม

เนื่องจากภารกิจหัวใจติดปีก ที่ดำเนินการมาอย่างยาวนาน

การเมืองมีวันที่แพ้ชนะ ความนิยมอาจขึ้นลง แต่ “การส่งต่อชีวิต” เป็นชัยชนะที่แบ่งให้ทุกคน—ผู้ให้ ผู้รับ ทีมแพทย์ ทีมภาคพื้น และทีมบิน—โดยไม่มีฝ่ายสี ไม่มีคะแนนนิยมมาเป็นตัวตั้ง มีเพียง “มนุษย์” ที่ส่งมือให้กันบนสะพานเวลาที่เปราะบางที่สุด 

ความงดงามของภารกิจนี้จึงอยู่เหนือความพ่ายแพ้ และชัยชนะ ทางการเมือง 

ที่ปลายทางทุกภารกิจ เมื่อประตูห้องผ่าตัดเปิดออก—แพทย์ก้าวออกมาพร้อมข่าวดี—ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจางหายไปในเสี้ยววินาที 

นายอนุทิน เคยบอกว่า “ในใจ ผมกราบหัวใจของผู้บริจาคทุกดวง” ถ้อยคำนี้ทำให้เรารู้ว่าเครื่องบินไม่ได้พาแค่อวัยวะข้ามฟ้า แต่มันพาคุณงามความดีของมนุษย์ข้ามไปกระตุกหัวใจอีกดวงหนึ่ง ให้กลับมาเต้น

ผ่านภารกิจหัวใจติดปีก

ภารกิจนอกการเมืองของคนชื่อ อนุทิน
 
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง