วันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568 03:06 น.

การเมือง

"วิสาร" กังวลพรรคภูมิใจไทย คุมคมนาคม–DSI เสี่ยงแทรกแซงคดีเขากระโดง–โยกย้าย DSI จุดไฟวิกฤติศรัทธา

วันพฤหัสบดี ที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.56 น.

"วิสาร" ผู้ช่วย รมว.มหาดไทย ตั้งคำถามสำคัญต่อพรรคภูมิใจไทย ทั้งกรณีคดีการรถไฟฯ และตำแหน่งอธิบดี DSI หวั่นใช้อำนาจการเมืองบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม ย้ำเพื่อไทยยื่นข้อเสนอ หากเลือก "ชัยเกษม" เป็นนายกฯ พร้อมยุบสภาทันที 

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง หลังจากพรรคประชาชนมีมติสนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยตั้งคำถามสำคัญ 2 ข้อที่สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในความสามารถของพรรคภูมิใจไทยในการรักษาคำมั่นสัญญาและบริหารประเทศอย่างโปร่งใส

คำถามแรกเกี่ยวกับกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคม นายวิสารตั้งข้อสังเกตว่า หากพรรคภูมิใจไทยได้ดูแลกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นกระทรวงสำคัญที่มีบทบาทในโครงสร้างพื้นฐาน จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในประเด็นเขากระโดงในปัจจุบันจะไม่ถูกเลื่อนการแจ้งความยื้อออกไปหรือถูกแทรกแซง โดยการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตในองค์กรรัฐ เช่น การรถไฟฯ ต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบของหน่วยงาน เช่น ป.ป.ช. หรือศาลปกครอง อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงนี้ถูกควบคุมโดยพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับกลุ่มผลประโยชน์ อาจเกิดการแทรกแซงหรือยื้อคดี แม้ตามหลักกฎหมายจะกำหนดให้กระบวนการต้องโปร่งใส แต่ในทางปฏิบัติ การใช้อำนาจทางการเมืองอาจทำให้กระบวนการล่าช้าหรือบิดเบือนข้อมูลได้ จึงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดหวังให้คดีดำเนินไปโดยปราศจากการแทรกแซง

คำถามที่สองเกี่ยวกับการโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายวิสารตั้งคำถามว่า พรรคประชาชนจะสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จะไม่ถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่ง เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินคดีสำคัญหลายคดี เช่น คดีฮั้ว ส.ว. และคดีเขากระโดง ซึ่งเกี่ยวพันกับกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง โดยตามพระราชบัญญัติกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 อธิบดี DSI มีหน้าที่ดำเนินคดีที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับการทุจริตระดับสูง การโยกย้ายอธิบดีโดยไม่มีเหตุผลสมควรถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แม้จะขัดต่อหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่การโยกย้ายตำแหน่งในหน่วยงานรัฐมักเกิดจากแรงกดดันทางการเมืองหรือความพยายามควบคุมกระบวนการตรวจสอบ ทำให้การรับประกันว่าอธิบดี DSI จะไม่ถูกโยกย้ายแทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อคดีเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองที่ทรงอิทธิพล

นายวิสาร กล่าวทิ้งท้ายถึงความกังวลในเรื่องความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของพรรคภูมิใจไทยในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและการดำเนินคดีที่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตั้งคำถามต่อการดำเนินงานของรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปอย่างโปร่งใสและยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังยื่นข้อเสนอว่าหากเลือกนายชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจะยุบสภาทันทีเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งอาจสอดคล้องกับวัตถุประสงค์เดิมของพรรคประชาชนหรือไม่

ทางด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ว่า เขากระโดงไม่สำคัญเท่ากับการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็จะหายไปตลอดเวลา และหายไปตลอดกาล

เมื่อถามว่า แบบนี้จะไม่ได้เขากระโดงกลับคืนเป็นที่ของหลวงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ตนทำตามนี้แน่นอน

หน้าแรก » การเมือง