วันเสาร์ ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2568 04:27 น.

การเมือง

"กัณวีร์" จี้รัฐบาลใหม่ ยุติเหมืองแร่แรร์เอิร์ธเมียนมา กระทบไทย-ลุ่มน้ำโขง เครือข่ายภาคประชาชนชู 10 ข้อเรียกร้องสู่ประชาคมโลก

วันศุกร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.32 น.

"กัณวีร์" รองประธาน กมธ.กฏมายฯ ร่วมวงสัมมนามลพิษข้ามพรมแดน จี้รัฐบาลใหม่ต้องยุติเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเมียนมา ส่งผลกระทบไทยและลุ่มน้ำโขง เครือข่ายประชาชนจากคะฉิ่น-เชียงราย ร่วมสะท้อนเป็นหายนะทางสิ่งแวดล้อม เสนอ 10 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลใหม่ และยกระดับปัญหาถึงประชาคมโลกทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับศูนย์แม่โขงศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเครือข่ายภาคประชาชน จัดสัมมนา “กรอบกฎหมายและกลไกระหว่างประเทศต่อมลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ” ณ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ

นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ในฐานะรองประธาน กมธ.กฎหมายฯ ระบุว่า เหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเมียนมากำลังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนลุ่มน้ำโขง โดยไทยยังไม่มีกฎหมายที่สามารถจัดการกับมลพิษข้ามพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่เร่งกำหนดนโยบายชัดเจน และยกปัญหานี้ขึ้นสู่เวทีอาเซียนและประชาคมโลก

เวทีสัมมนามีเครือข่ายจากรัฐคะฉิ่นและเชียงรายสะท้อนสถานการณ์ว่า การขุดแร่แรร์เอิร์ธในเมียนมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังการรัฐประหารปี 2564 จนก่อให้เกิดสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก สาย และโขง สร้างผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน

นักวิชาการและภาคประชาสังคมเสนอ 10 ข้อเรียกร้อง ถึงรัฐบาลไทย อาทิ ตรวจสอบการปนเปื้อนในพื้นที่เกษตรและแหล่งน้ำ ห้ามนำเข้าแร่จากเหมืองที่ไม่รับผิดชอบ ตั้งคณะทำงานร่วมรัฐ-ประชาชนเพื่อปิดเหมือง เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และผลักดันการเจรจากับเมียนมาและจีนโดยเร่งด่วน

ภาคีประชาชนย้ำว่า เหมืองแร่แรร์เอิร์ธคือ “หายนะทางสิ่งแวดล้อม” ที่ไม่ควรถูกละเลย รัฐบาลไทยต้องยกระดับปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ และขับเคลื่อนร่วมกับภูมิภาคและเวทีโลก เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความมั่นคงของประชาชนลุ่มน้ำโขง

หน้าแรก » การเมือง