เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568   ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ) เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำทีมครม.เข้าแถลงนโยบายรัฐบาล โดยได้นำเสนอเนื้อหาของนโยบายสำคัญของรัฐบาลแล้ว 

หลังจากนั้นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนและนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดอภิปรายนโยบายรัฐบาลเป็นคนแรกของพรรคเพื่อไทย 

จากนั้นนายอนุทินได้ลุกขึ้นตอบทันทีโดยระบุว่าเวลาของรัฐบาลนี้เริ่มนับหนึ่งตาม MOA วันที่ 1 ตุลาคมและเมื่อครบ 120 วันจะประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนทันที ดังนั้นจึงถือว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ

นายอนุทินยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ “ทำได้ ทำเป็น และจะทำดีที่สุด” ตลอดช่วงเวลาการทำงาน 4 เดือน ก่อนยุบสภาตามข้อตกลงทางการเมือง

นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่บรรจุในคำแถลงนโยบายได้ผ่านการกลั่นกรองแล้ว ทุกเรื่องสามารถทำได้ทันที และรัฐมนตรีแต่ละคนแม้บางคนไม่เคยเป็น รมต.มาก่อน แต่ก็ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ การศึกษา และประวัติการทำงานอย่างละเอียด มั่นใจว่ามีความรู้ความสามารถเพียงพอในการขับเคลื่อนประเทศ พร้อมย้ำว่า “กว่าจะมาถึงตำแหน่งนายกฯ ใช้เวลาเป็นสิบปี ผมจะทำเต็มที่เพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศและประชาชน”

นายกฯ ยังตอบข้อกังวลเรื่องความโปร่งใสว่า รัฐบาลพร้อมเปิดเผยและให้ตรวจสอบทุกขั้นตอนตามกฎหมาย ยืนยันไม่ปิดบัง และจะใช้ความถูกต้องตามกระบวนการเป็นหลัก “ใจกล้าพอให้ทุกคนตรวจสอบได้” ขณะเดียวกันยังปฏิเสธเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลนี้ขาดคนมีฝีมือ โดยเชื่อมั่นว่าคณะรัฐมนตรี 36 คนล้วนผ่านประสบการณ์และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

สำหรับข้อห่วงใยเกี่ยวกับอนาคตประชาธิปไตย นายอนุทินยืนยันว่า รัฐบาลนี้จะสร้างรากฐานที่มั่นคงและไม่ปล่อยให้ใครมาบงการ นายกฯ จะตัดสินใจร่วมกับคณะรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ พร้อมระบุว่า “แม้รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ แต่คือโอกาสในการฟื้นความเสียหายและคืนศักดิ์ศรีให้กับประชาชน”

นายอนุทินย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่เดินตามนโยบายที่มอมเมาประชาชน เช่น คาสิโน หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่จะเลือกแนวทางการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม นอกจากนี้ยังเตรียมรื้อฟื้นโครงการด้านสาธารณสุข เช่น ฟอกไตฟรี และพัฒนาระบบ “30 บาทรักษาทุกที่” โดยมอบหมายให้ รมว.สาธารณสุขทำให้สำเร็จภายใน 2 เดือน หากไม่เป็นผล ตนพร้อมกลับมานั่ง รมว.สาธารณสุขเอง

ตอนหนึ่ง นายอนุทินได้เล่าถึงประสบการณ์การทำงานร่วมกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยยกคำพูดที่ตนยังยึดถือมาจนถึงวันนี้ว่า “ผู้แพ้จะเห็นปัญหาในทุกทางออก แต่ผู้ชนะจะเห็นทางออกในทุกปัญหา” ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐบาลนี้คือผู้ที่มุ่งมั่นหาทางออก ไม่ใช่ข้อแก้ตัว

นายอนุทินสรุปว่า รัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือนนี้ จะทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น และคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมยืนยันว่า วันที่ 31 มกราคม 2569 จะคืนอำนาจให้ประชาชนตามพันธะที่กำหนดไว้ในข้อตกลง MOA