วันอาทิตย์ ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:40 น.

การเมือง

“จุรินทร์” จี้รัฐบาลตอบให้ชัด 6 ประเด็นใหญ่ ซัดบ่อนกัมพูชาล้ำเขตแดนไทย ถามยึดคืนได้เมื่อไหร่

วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.09 น.

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วาระพิเศษ เพื่อรับฟังการแถลงนโยบายรัฐบาลตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายตรวจสอบนโยบายรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล โดยสรุปเป็น 6 ประเด็นสำคัญ

นายจุรินทร์ ระบุว่า นโยบายรัฐบาลที่แถลงออกมา 7 หน้า 5 หมวด ยังไม่ครอบคลุมโจทย์ปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะ ภัยคอร์รัปชัน ซึ่งควรถูกยกเป็น “ภัยที่ 5” ของชาติ เพราะเป็นรากของปัญหาทั้งเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และภัยธรรมชาติ พร้อมตั้งคำถามชัดเจนว่า หากมีการแก้รัฐธรรมนูญ จะรับประกันได้หรือไม่ว่าจะไม่แตะหมวด 1–2 และจะไม่แก้ไขมาตราที่เป็นหัวใจ “ปราบโกง”

ประเด็นสำคัญอีกด้าน คือ ความมั่นคงชายแดนไทย–กัมพูชา นายจุรินทร์ตั้งคำถามตรงไปตรงมาว่า รัฐบาลมีแนวทางจะ “ยึดคืน” พื้นที่ที่ถูกครอบครองอย่างไรและเมื่อใด ไม่ใช่เพียงการรักษาสถานะปัจจุบันเท่านั้น พร้อมจี้ให้นายกฯ ตอบชัดถึงปัญหาบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชาที่ก่อสร้างล้ำเข้ามาในเขตไทย ว่ารัฐบาลจะดำเนินการจัดการเช่นไรใน 8–9 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ยังอภิปรายเรื่อง การแก้ปัญหาเกษตรกร ชี้ว่านโยบายตอนหาเสียง เช่น ข้าวเกวียนละ 12,000 บาท หรือมันสำปะหลังโลละ 4 บาท กลับไม่ถูกบรรจุในนโยบายจริง มีเพียงถ้อยคำกว้าง ๆ เกี่ยวกับการดูแลราคาเกษตร พร้อมเตือนรัฐบาลว่าปัญหาข้าว มัน ปาล์ม ข้าวโพด และผลไม้ คือ “การบ้านข้อใหญ่” ที่ต้องเร่งแก้ไข

นายจุรินทร์ยังย้ำว่า การรักษาหลักนิติธรรมจะต้องไม่เป็นเพียงถ้อยคำสวยหรู แต่ต้องบังคับใช้จริงกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม และได้ฝาก “คาถา 5 ข้อ” ถึงรัฐบาล คือ ไม่โกง, ใช้อำนาจอย่างมีสติ, ไม่เล่นพรรคเล่นพวก, ไม่เลือกปฏิบัติ, และไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

“หากรัฐบาลทำได้จริง เชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสกลับมาอีก แต่ถ้าเผลอลุแก่อำนาจหรือถอยหลังเข้าคลอง ก็ยากที่จะอยู่รอด” นายจุรินทร์ กล่าวปิดท้าย

"ทัพเรือ"ไล่บี้ "กัมพูชา" รื้อกาสิโนรุกล้ำ "บ้านท่าเส้น-ทมอดา จ.ตราด" 

ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิมพล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ถึงอาคารกาสิโนของกัมพูชา ที่รุกล้ำพื้นที่บ้านท่าเส้น-ทมอดา จ.ตราด จะรื้อถอนหรือไม่ ว่า ที่ผ่านมาเรากดดันมาตลอด เราได้รับข้อมูลว่าถ้ายังไม่ชัดเจนก็ไม่ต้องให้คนเข้าใช้ ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่มีการเข้าใช้ประโยชน์อาคาร แต่ต้องเจรจาและกดดันเพิ่มมากขึ้น เพราะในบริเวณนั้นฝ่ายกัมพูชาเริ่มก่อตั้ง ต้องกดดันให้เขาพิจารณาทำลาย

เมื่อถามย้ำว่ามีการมองว่าเป็นการสร้างในพื้นที่ของไทย ต้องเป็นฝ่ายกัมพูชารื้อถอนหรือฝ่ายไทย ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจแล้วหรือไม่ ว่าที่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ขณะนี้เราต้องร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เพราะหน่วยงานความมั่นคงก็ดูเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว ส่วนการเจรจาก็จะมีกระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ ต้องเจรจากดดันต่อไป ขอยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือปล่อยให้อยู่ตรงนั้นชั่วนาตาปี แต่จะใช้มาตรการกดดันให้เข้มข้นขึ้น

เมื่อถามย้ำว่ามีการมองว่ามีความเกรงใจเพราะมีชื่อนักการเมืองฝั่งไทยเกี่ยวข้องนั้น ว่าที่ ผบ.ทร. กล่าวว่า อันนี้ผมขอให้หน่วยงานในพื้นที่เขาทำ เราหน่วยงานความมั่นคงขอเน้นไปที่เรื่องการปกป้องอธิปไตย

สำหรับพื้นที่อาคารกาสิโนที่ท่าเส้น ว่าที่ ผบ.ทร. ระบุอีกว่า ต้องพิจารณาข้อตกลงที่จะพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาจะออกมาอย่างไร ระบบตรวจการณ์ของเราไม่ได้ขึ้นไปทุกวัน เพราะพื้นที่ฝั่งเราอยู่บนเหวมากกว่า แต่ฝ่ายกัมพูชาเป็นพื้นราบ จึงต้องรอบพอสมควร ซึ่งถ้ามาสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ถ้าใช้ประโยชน์ร่วมกันไม่ได้ และพูดคุยร่วมกันไม่ได้ เราก็ต้องคงต้องหาวิธีกดดันผ่านวิธีใดวิธีหนึ่ง

เมื่อถามย้ำว่าหากจะใช้ประโยชน์ร่วมกันจะเป็นรูปแบบใด ผบ.ทร. กล่าวว่า เราไม่ได้มองว่าจะเอาไปทำกาสิโน ผมมองที่อาคารอย่างเดียว ซึ่งสามารถนำไปใช่ร่วมกันได้ อาจเป็นอาคารตรวจการณ์ร่วมกันได้ ผมมองอย่างนั้น ผมไม่ได้มองว่าตรงกันเป็นกาสิโน ผมมองว่าเป็นอาคาร เราผลักดันไม่ให้ใครมาใช้อาคาร

เมื่อถามว่านอกจาก 17 พื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ที่ฝ่ายกัมพูชารุกล้ำขึ้นมา มีพื้นที่อื่นๆ เพิ่มอีกหรือไม่ ว่าที่ ผบ.ทร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่มีการมาเพิ่ม แต่บางจุดเราประท้วงเขาก็หยุดสร้าง แต่บางจุดเราประท้วง เช่น บางคูเลตเขาก็กลบ ถนนบางสายเมื่อเขาทำแล้ว ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เลี้ยวมาในไทย เขาก็หลีกเลี่ยงไปทางอื่น แต่ส่วนใหญ่ฐานที่มั่นทางทหารก็จะมีที่บ้างชำรากเท่านั้น

เมื่อถามว่าเหล่าทัพต้องมีการหารือร่วมกันวางแผนชายแดนอย่างไรบ้าง ว่าที่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพต้องหารือร่วมกันและประสานแผน ทั้งกองทัพภาคที่1-2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เพื่อทำไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้ทวีกำลังในการกดดันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งรัฐบาลก็จะกำหนดเรื่องเศรษฐกิจและการทูต ในการทหารก็จะกดดันพร้อมกันไป เพื่อให้การทวีกำลังในการกดดันได้ผลมากขึ้น

เมื่อถามถึงการขีดเส้นพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว วันที่ 10 ต.ค.นี้ ให้ชาวกัมพูชาอพยพออกจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ทาง ทร. จะสนับสนุนกองทัพภาคที่ 1 อย่างไรบ้าง ว่าที่ ผบ.ทร. กล่าวว่า เราพร้อมเพราะมีการประสานแผนตลอด ผบ.กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด รายงานอยู่ตลอด ซึ่งพุดคุยกับกองทัพภาคที่1-2 ถือว่าเราได้ประสานการปฏิบัติ เราทำงานจังหวะของการเดิน ก็ต้องไปด้วยกัน

ส่วนรูปแบบการทำงานของ ผบ.ทร. เป็นอย่างไร พล.ร.อ.ไพโรจน์ กล่าวว่า "เข้มข้นมาทุกยุคแต่จะมุ่งเน้นในจุดไหน ผมมีประสบการณ์ปฏิบัติการทางบก ดูในเรื่องการประสานแผน กำหนดยุทธศาสตร์ ก็จะต้องการปฏิบัติของน้องๆ และหน่วย"
 

 
 

หน้าแรก » การเมือง