การเมือง
ชาวสวนยางเตรียมเฮ ! “ธรรมนัส”นำกระทรวงเกษตรฯ ผนึก 3 กระทรวง เซ็น MOU หนุนใช้ยางพาราในภาครัฐ ตั้งเป้า ดันราคายางสดแตะ 60–70 บาท ภายใน ต.ค.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น.ที่ อาคาร 99 ปี ม.ล.ชูชาติ กำภู กรมชลประทาน สามเสน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายองอาจ วงษ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ยางพาราในภาครัฐกับการยางแห่งประเทศไทย
โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ การสร้างเสถียรภาพราคายางพารา และการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวสวนยางและประชาชน ผ่านการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ยางพาราในรูปแบบต่างๆ กระทรวงเกษตรฯ ได้ขับเคลื่อนนโยบายทันที โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ โครงการเครือข่ายงานวิจัย ทดสอบและวิเคราะห์คุณภาพ ระหว่าง การยางแห่งประเทศไทย กับ กรมชลประทาน เพื่อเผยแพร่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านงานวิจัย และบูรณาการงานวิจัยร่วมกัน ซึ่งเน้นการศึกษาคุณสมบัติ วิเคราะห์ และพัฒนาวัสดุที่มีส่วนผสมของยางเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานด้านชลประทานอีกด้วย
“การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ยางพาราไทยนำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เป็นรูปธรรม และมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำหน้าที่ประสานและบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศให้ได้มากที่สุด และต้องมีความยั่งยืน ทั้งการนำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมด้านเกษตร การศึกษา กีฬา การท่องเที่ยว การพัฒนาสังคม โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงขยายการใช้ผลิตภัณฑ์ยางพาราในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมไทย“
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า เราจะสร้างเสถียรภาพราคายาง ลดพึ่งพาการส่งออกวัตถุดิบ และสร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้แก่พี่น้องชาวสวนยาง ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ยางพาราไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ที่สำคัญ คือ การร่วมมือกันของทุกภาคส่วน จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนางานยางพาราทั้งระบบ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยให้มีความยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ กระบวนการดำเนินงานภายใต้ MOU จะมีการรับซื้อและเปลี่ยนยางรถยนต์ที่จะให้ใช้ยางของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เท่านั้น โดยลำดับแรกจะเร่งออกระเบียบที่เกี่ยวข้อง และยังมีกระบวนการอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการให้หน่วยงานภาครัฐเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ยางพาราจากของ กยท. เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
“กระทรวงเกษตรฯ บูรณาการร่วมกับอีก 3 กระทรวง และการยางแห่งประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนราคายางพาราให้สูงขึ้น โดยตั้งเป้าว่า ภายในเดือนตุลาคม ราคาน้ำยางสดจะขยับจากระดับปัจจุบันประมาณ 50 บาทต่อกิโลกรัม ไปสู่เพดาน 60–70 บาท และภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน ราคาต้องปรับสูงขึ้นกว่าเดือนตุลาคม และเราจะเค้าท์ดาวน์สิ้นปี 2568 ด้วยความสุขของพี่น้องชาวสวนยาง โดยเราต้องหาวิธีทางขยับราคายางพาราให้ไปถึงเพดานที่สูงที่สุดให้ได้ นี่ไม่ใช่การสร้างฝัน แต่เรากําลังจะทําฝัน ที่เราฝันไว้ ให้เป็นความจริง“
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า ความพยายามนี้ไม่เพียงเพื่อชาวสวนยางเท่านั้น แต่ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด และมันสำปะหลัง โดยได้หารือร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างมาตรการสนับสนุน และปรับราคาพืชผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง นอกจากนี้ ภาคปศุสัตว์ก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญ โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงอย่าง นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานีหลายสมัย มาร่วมวางแนวทางพัฒนาการเลี้ยงสัตว์และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เพื่อยกระดับองค์กรภาคเกษตรให้เข้าสู่ความยั่งยืน และยังมีทีมงานที่ปรึกษาที่มีความรู้ความสามารถเข้าร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนงานอย่างจริงจังด้วย
ด้าน ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราให้มีตลาดรองรับอย่างมั่นคง โดยเฉพาะการใช้ยางพาราในโครงการภาครัฐต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียน เฟอร์นิเจอร์ และโครงสร้างพื้นฐานของสถานศึกษา ซึ่งนอกจากจะช่วยยกระดับรายได้ของเกษตรกรแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนของรัฐบาล
ขณะที่นายอรรถกร กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เราจะนำยางพารามาใช้ในส่วนของอุปกรณ์สำหรับการซ้อมกีฬา รวมถึงอุปกรณ์ด้านการป้องกันต่าง ๆ ตลอดจนสิ่งอื่น ๆ ที่เราคิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาให้อุปกรณ์ทางการกีฬาของไทยสามารถต่อยอดไปสู่ระดับสากลได้ ซึ่งยางพาราก็เคยนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบของชำร่วย และได้รับความชื่นชมจากพี่น้องที่เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราก็คงจะต่อยอดในแนวทางนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางโดยเฉพาะ
ด้านนายอัครา กล่าวว่า จะนำยาวพาราไปแปรรูปเป็นหมอนและนำไปประสานกับโรงพยาบาลทั่วประเทศร่วมกันสนับสนุน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย" เตรียมโชว์วิสัยทัศน์แพทองธาร เปิดทัพเลือกตั้ง 4 ต.ค. 2568
- "ชัยชนะ" นำทีม 20 สจ.นครศรีฯ สมัครสมาชิก ปชป. หนุน "อภิสิทธิ์" นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ – "คุณหญิงสุพัตรา" คืนถ้ำประชาธิปัตย์ 4 ต.ค. 2568
- “สันติ ปิยะทัต” ลุยน้ำท่วมสุโขทัย–พิษณุโลก มอบถุงยังชีพ สั่งซ่อมพนังกั้นน้ำ เร่งแผนจัดการน้ำระยะยาว 4 ต.ค. 2568
- “นเรศ” ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเชียงแสน ช่วยเกษตรกรกว่า 2,500 ไร่ มีน้ำใช้ตลอดปี 4 ต.ค. 2568
- “ดร.มหานิยม” วิจารณ์นโยบายปฏิรูปสงฆ์ของ “บวรศักดิ์” ชี้ไม่เข้าใจวิถีพระ – ย้ำเจอแรงต้านแน่ 4 ต.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
“อนุทิน” เยี่ยมทหารฐานชายแดนบุรีรัมย์ ตรวจรั้วลวดหนาม ย้ำสร้างรั้วไทย-กัมพูชา ต้องสอดคล้องภูมิประเทศ 20:14 น.
- "วราวุธ" เตือนวิกฤตเชิงซ้อน! ไทยเผชิญทั้งโลกร้อน–ประชากร เสี่ยงหนัก 10 ปีข้างหน้า 18:41 น.
- “อามินทร์” สั่งกระทรวงเกษตรฯ เฝ้าระวังอุทกภัย เร่งขุดลอกคลอง- กำจัดวัชพืช พร้อมเดินหน้าโครงการคลองผันน้ำแก้ปัญหาระยะยาว 18:38 น.
- “ดร.มหานิยม” วิจารณ์นโยบายปฏิรูปสงฆ์ของ “บวรศักดิ์” ชี้ไม่เข้าใจวิถีพระ – ย้ำเจอแรงต้านแน่ 17:42 น.
- เอา 4 เดือนนี้ให้รอดก่อน! "อนุทิน" ตอบกลับคำอวยพร "เนวิน" ขอให้เป็นนายกฯต่ออีก 4 ปี 17:20 น.