เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 07.10 น.  ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสครบรอบวันสถาปนาทางการทูตไทย-ลาว 75 ปี

โดย นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรก ว่าวันนี้ตนได้เดินทางไป สปป.ลาว เพื่อกระชับไมตรี รวมถึงการเพิ่มมูลค่าต่างๆ ทางเศรษฐกิจ และแสวงหาความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน ความมั่นคง การค้า การร่วมกันปราบปรามยาเสพติด และอีกมากมาย

เมื่อถามถึงการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยในภาพรวมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องรายละเอียดขออย่าถาม เราพูดคุยแต่กรอบนโยบาย ถามรายละเอียดแบบนี้ไม่ได้ เพราะนายกฯไม่ได้รู้ทุกเรื่อง

ส่วนการโทรศัพท์พูดคุย นายอี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้นั้น นายอนุทินกล่าวว่า มีการนัดกันอยู่ เป็นเรื่องที่หารือกันในการร่วมประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ และจะพูดคุยเรื่องปัญหาสแกมเมอร์ไปด้วย ขณะนี้การพูดคุยเรื่องปัญหาสแกมเมอร์มีความคืบหน้าไปทุกด้าน

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการสแกมเมอร์ จนทำให้การปราบปรามติดขัด นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เคยติดขัด จริงๆ แล้วมีการดำเนินการเรื่องสแกมเมอร์อยู่แล้ว ฝ่ายตำรวจ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ดำเนินการอยู่ตลอดไม่ได้ทำตามกระแส

เมื่อถามว่า กรอบการทำงานของคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า กรอบอยู่ในคำสั่ง

ผู้สื่อข่าวถามจึงถึงการแต่งตั้ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ จะให้ทำงานด้านปฏิบัติการเลยใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นหนึ่งในผู้ปฏิบัติงานและประสานงาน ส่วนจะหวังผลแค่ไหน นายอนุทินตอบเพียงว่า "หวังผลเลิศ"

ผู้สื่อข่าวถามถึงการร้องขอจากนานาชาติ ให้ไทยร่วมมือในการปราบปรามแสกมเมอร์ มีการวางกรอบอย่างไรบ้างนั้น นายอนุทินไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนบอกเพียงว่า "ขอบคุณครับ"

"สีหศักดิ์" ยันไทยมุ่งมั่นสานต่อความร่วมมือกับ สปป.ลาว อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการปราบสแกมเมอร์ 

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ (16 ต.ค.68) ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 75 ปี ไทย - สปป.ลาว เนื่องจากพิจารณาว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวเป็นความสัมพันธ์ประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดสนิทสนม โดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรม และโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพและเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ของประเทศทั้งสอง ที่เชื่อมต่อเส้นทางขนส่งสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น จีน และเวียดนาม และที่สำคัญในเดือนธันวาคมนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งใหม่ เพื่อเชื่อมโยงให้ประชาชนได้ไปมาหาสู่กัน ทั้งยังมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ ไทยและลาวยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยเฉพาะการแก้ไขเรื่องฝุ่น PM 2.5 ที่มีความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคี และในกรอบอาเซียนด้วย ความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนใน สปป.ลาว ความร่วมมือด้านความมั่นคง ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมตามแนวชายแดน โดยเฉพาะขบวนการคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และส่งผลกระทบทั้งในและนอกภูมิภาค จึงต้องประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจังในการปราบปรามขบวนการเหล่านี้

ทั้งนี้ รมว.กต. ระบุว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกจากการร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ เช่น จีน สปป.ลาว และเมียนมา ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากกัมพูชา รวมทั้งประสานความร่วมมือกับประเทศจากนอกภูมิภาคอย่าง สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน และจะต้องหารือแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ในเวทีอื่น ๆ เช่น การประชุมสุดยอดอาเซียนในช่วงปลายเดือนนี้ด้วย