“มนพร" ปลุก พลัง อสม. สานต่อนโยบายเพื่อไทย เน้นดูแลสุขภาพชุมชน ส่งเสริมประชาชนกินอาหารเพื่อสุขภาพ ลดป่วย ความดัน เบาหวาน หลอดเลือด ช่วยลดงบประมาณดูแลผู้ป่วย นำมาเป็นกองทุนดูแลสวัสดิการ อสม. เร่งผลักดันคลอด พ.ร.บ.อสม. เพิ่มสวัสดิการ ต่ออายุการทำงาน ดูแลสุขภาพชุมชน มั่นใจลดภาระงบประมาณรัฐ ดูแลผู้ป่วย ได้ปีละกว่าห้าพันล้าน” 

ความเคลื่อนไหวทางการเมือง พื้นที่ จ.นครพนม หลังเริ่มนับถอยหลังยุบสภา เตรียมเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องยอมรับว่า คนที่น่าจับตา และมีผลงานโดดเด่น หาตัวเทียบยาก ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นขั้วรัฐบาล หรือฝ่ายค้าย ยังคงทำหน้าที่ผู้แทนตลาดล่าง พบปะชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยขาด สำหรับ นางมนพร เจริญศรี หรือ สส.เดือน อดีต รมช.คมนาคม สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย พร้อมทีมงานครอบครัวเพื่อไทย เดินหน้าลงพื้นที่ผลักดันนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แก้ปัญหาความเดือดร้อน ด้านความเป็นอยู่ รวมถึงการดูแลพัฒนาสุขภาพชุมชน เร่งพัฒนาคน พัฒนาเมือง ไปจนถึงการส่งเสริม เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว หนุนนครพนม เป็นเมืองหลัก 
 
ล่าสุด นางมนพร เจริญศรี หรือ สส.เดือน อดีต รมช.คมนาคม สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย พร้อมทีมงานครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน มอบผ้าสไบเบี่ยง ผ้าสไบบุญ หนุนกิจกรรมเข้าวัดฟังธรรม รวมถึงชูนโยบายพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพชุมชน กับกลุ่ม อสม. ในพื้นที่ ต.หนองญาติ ต.อาจสามารถ ต.ท่าค้อ ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ การผลักดัน ออกกฎหมาย พ.ร.บ.อสม. เป็นการเพิ่มสวัสดิการ อสม. ส่งผลดีต่อการดูแลสุขภาพชุมชน ลดภาระการใช้งบประมาณของรัฐบาลในการดูแลผู้ป่วย
 
ทั้งนี้ นางมนพร เจริญศรี หรือ สส.เดือน อดีต รมช.คมนาคม สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผย กับ ทีม อสม.ในพื้นที่ อ.เมืองนครพนม ว่า นโยบายพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญเน้นการดูแลสุขภาพชุมชน ทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค จนถึง 30 บาทรักษาทุกที่ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ให้ความสำคัญพลัง อสม. ถือเป็นกำลังสำคัญ มีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งประเทศ เพราะ อสม.ถือเป็นหมอด่านหน้า ทำหน้าที่จิตอาสาดูแลสุขภาพประชาชน แต่ยังมีปัญหาการดูแลสวัสดิการ ปัจจุบันมีเพียงค่าตอบแทน ตามมติ ครม. เป็นที่มาของการผลักดัน เกิดร่าง พ.ร.บ.อสม. เพื่อให้มีกฎหมายของตัวเอง ล่าสุด ร่าง พ.ร.บ.อสม. ได้ผ่านความเห็นชอบสภาผู้แทนราษฎร แล้ว เตรียมนำเข้าวาระ 2-3 คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ในปลายปี 2568
 
สำหรับสิทธิ อสม. ตาม พ.ร.บ.อสม. มีใจความสำคัญคือ เรื่องค่าตอบแทน อสม.จะมีค่าตอบแทนตายตัว เดือนละ 2,000 บาท โดยไม่ต้องรอมติ ครม. อนุมัติ ทุกปี ช่วยเพิ่มเครดิต อสม. เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้งาน สามารถกู้ดอกเบี้ยต่ำ มี กองทุน สวัสดิการ อสม.ดูแล ค่าเจ็บป่วย ค่ารักษาพยาบาล โดยกำหนดลักเกณฑ์อายุ อสม. ตั้งแต่ 18-60 ปี แต่สามารถ ทำงานต่ออายุได้ตลอด แต่ต้องผ่านการประเมินจาก คณะกรรมการ ในการเพิ่มค่าตอบแทน รวมถึงมีการพิจารณา อสม. ที่มีอายุระหว่าง 18 – 35 ปี เข้าไปบรรจุเป็นผู้ช่วยพยาบาล ตามโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล อีกทั้งมีการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสม ทำงานเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุ ประจำชุมชน มีเงินเดือน 5,000 บาท 
 
ที่สำคัญ พรรคเพื่อไทย ยังมีโครงการส่งเสริมสนับสนุนให้ อสม. ทำหน้าที่ดูแลประชาชน เกี่ยวกับการกินอาหาร เพื่อสุขภาพ ลดการกินแป้ง กินอาหาร หวาน มัน หรือนับคาร์บ ลดการเกิดโรคติดต่อไม่เรื้อรัง ความดัน เบาหวาน หลอดเลือดหัวใจ  เพราะปัจจุบันจากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลต้องใช้งบประมาณ ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ ปีละกว่า 80,000 ล้านบาท หากมีทีม อสม. เข้าไปดูแล ส่งเสริม จะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายงบประมาณ ได้ไม่ต่ำกว่า ปีละ 5,000 ล้านบาท สามารถนำมาสนับสนุน เป็นกองทุน อสม. พัฒนาศักยภาพการทำงาน อสม. สามารถดูแลสุขภาพประชาชน ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย จะต้องสานต่อการดูแล สวัสดิการ อสม. รวมถึงการดูแลสุขภาพประชาชน ให้ประชาชนมีสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี มากที่สุด
 
#สส.เดือน มนพร เจริญศรี สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย
#ปลุกพลัง อสม.ดูแลสุขภาพประชาชน
#พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน