วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568 05:46 น.

การเมือง

กกต. พร้อมทำประชามติควบเลือกตั้ง "อนุทิน" ย้ำเลิก MOU ต้องถามประชาชน ยัน 31 ม.ค. 69 ยุบสภาฯแน่

วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.32 น.

กกต. ยันพร้อมทำประชามติควบเลือกตั้งทั่วไป มั่นใจไร้ปัญหา รอลงรายละเอียด ด้าน "อนุทิน" ย้ำยกเลิก MOU 43-44 ต้องเดินหน้าถามประชาชน เหตุ แถลงนโยบายไปแล้ว ยัน  31 ม.ค. 69 ยุบสภาฯแน่ 

 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568  นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี /นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี /นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย / นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี  และคณะ ร่วมหารือกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.   ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ในประเด็น แนวทางการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา MOU 2543 และ MOU 2544 ในวันลงคะแนนเลือกตั้ง สส. เป็นการทั่วไป

จากนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือซึ่งใช้ระยะเวลากว่า 1 ชั่วโมง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้เปิดเผยว่า เป็นการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการออกเสียงประชามติในวันเดียวกันกับการเลือกตั้งทั่วไป โดยเป็นการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน งบประมาณ การกำหนดวัน และปัจจัยการจัดทำประชามติว่าขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง แต่ยังไม่ได้ลงในรายละเอียดว่าจะต้องตัดสินใจอย่างไร

ขณะที่ เรื่องบัตรเลือกตั้งนั้น เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป ว่าจะมีบัตรเลือกตั้งสองใบ สำหรับสส.แบบแบ่งเขต และสส.แบบบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรที่จะใช้ในการทำประชามติ ในขณะนี้วางแผนไว้ว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือ ยกเลิก MOU 2543-2544 จะมีบัตรประมาณ 4 ใบ ซึ่งหากมีการออกเสียงในวันเดียวกันจะมีบัตรเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ฉะนั้นต้องมีการบริหารจัดการให้มั่นใจที่สุด เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง รวมถึงเจ้าที่ปฏิบัติหน้าที่ที่หน่วยจะได้ไม่มีความสับสน ซึ่งหลังจากนี้ต้องไปลงรายละเอียด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างดีที่สุด

พร้อมย้ำว่า กกต. พร้อมปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศ เพราะเป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว 

ส่วนเรื่องการนับคะแนน ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด ว่าจะต้องนับการเลือกตั้งทั่วไป หรือประชามติก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องพูดคุยกันต่อ ขณะที่งบประมาณในการดำเนินการ หากมีการจัดการเลือกตั้งพร้อมกันจะใช้งบประมาณกว่า 9,000 ล้านบาท แต่หากจัดเลือกตั้งแยกกันจะใช้งบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 53 ล้านคน ฉะนั้นหากทำประชามติพร้อมกันจะคุ้มค่ากว่า

นอกจากนี้ ประธาน กกต. ยังระบุว่า พ.ร.บ.ประชามติฯ ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้กำหนดให้มีการออกเสียงประชามติได้นอกราชอาณาจักรได้เป็นการครั้งแรก ดังนั้นในครั้งนี้จะต้องมีการออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรด้วย

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ระบุ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำประชามติทางประชาชนก่อนว่าจะยกเลิก MOU 2543และ 2444 หรือไม่ เพราะ เป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว ส่วนกลางกระบวนการจะเป็นอย่างไรจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่ รัฐบาลจะหารือกับ กกต. อีกครั้ง แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะ 31 มกราคม 2569 จะต้องมีการยุบสภา
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง