วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568 05:41 น.

การเมือง

ด่วน! "อนุทิน" ลงนามถอนสัญชาติไทย "ลียง พัด" สว.กัมพูชาเอี่ยวค้ามนุษย์-สแกมเมอร์

วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 12.45 น.

 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568  นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องถอนสัญชาติไทย ณ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568 มีผลทันที โดยเนื้อหาระบุว่า 

ด้วยปรากฏว่า พัด สุภาภา หรือ ลียง พัด บุคคลสัญชาติไทย ซึ่งได้รับสัญชาติไทย โดยการแปลงสัญชาติ มีพฤติการณ์ยังคงใช้สัญชาติกัมพูชา ประกอบกับได้รับรายงานข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่แสดงว่า มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่ฉ้อโกงประชาชน จนถูกสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติแห่งสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตร เนื่องจากมีลักษณะพิเศษในการถูกอายัดทรัพย์สินเพราะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และหลอกลวงไซเบอร์ เห็นว่าพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวนั้นเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดประโยชน์ต่อรัฐ และขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อยู่ในข่ายถูกถอนสัญชาติไทยได้

ตามมาตรา 19 (2) (3) (4) แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 และหากปล่อยไว้เนิ่นช้าออกไปจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประชาชนและสาธารณะได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ให้ถอนสัญชาติไทยของพัด สุภาภา หรือลียง พัด

ทั้งนี้ ลียง พัด เป็น สว. ของกัมพูชา ได้ถือสัญชาติไทยด้วย โดย มีชื่ออยู่ในเครือข่ายสแกมเมอร์ คาดการณ์ว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ล่าสุดถูก ปปง. อายัดทรัพย์ที่อยู่ในประเทศไทยกว่า 70 ล้านบาท

สั่ง กสทช. ตรวจสอบ ปมส่งสัญญาณเน็ตทางอ้อม ให้กลุ่มสแกมเมอร์ หากพบให้ไล่ปิดทันที  
 
นายอนุทิน  กล่าวถึงกรณีสื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวว่า ศูนย์สแกมเมอร์ยังตั้งอยู่บริเวณตามแนวชายแดนไทย เนื่องจากยังมีการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตและกระแสไฟฟ้าจากฝั่งประเทศไทย ว่า ข่าวที่ออกมามีแต่คนนั้นบอก คนนี้บอก แต่อยากให้ไปดูพื้นที่จริง โดยเฉพาะเรื่องสแกมเมอร์ อยากให้ฟังคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) พูดชัดเจนว่าฝ่ายตำรวจเรามีความพยายามมากแค่ไหน และสิ่งที่ทำในรัฐบาลนี้ ไม่มีตรงไหนที่เราจะลดราวาศอกกับเรื่องพวกนี้ และในที่ประชุมของคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางเลขาธิการ กสทช. ยืนยันในที่ประชุมว่า ในเรื่องของการปิดช่องทางส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ได้ทำหมดแล้ว แต่หากมาจากแหล่งอื่นหรือมาทางอ้อม เช่นขายไปอีกประเทศหนึ่ง และไปใช้สัญญาณจากประเทศนั้น เราก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องขอความร่วมมือไป โดยตนบอกไปว่า หากสืบทราบว่ามีการใช้แบบทางอ้อม เราก็ต้องไปไล่ปิดทางอ้อม 

นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ข่าวทั้งหมด เราก็ต้องมานั่งกรองมาเรื่องไหนจริงหรือเท็จ เพราะขณะนี้ส่วนใหญ่ข่าวเท็จเยอะมากกว่าจริง การพูดอะไรไป อาจจะพูดจากข้อมูลที่เขาได้มา แต่ข้อเท็จจริง ข้อมูลเหล่านี้สู้คนที่ทำงานจริงไม่ได้หรอก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สื่อต่างประเทศ นำเสนอข่าวว่ากลุ่มสแกมเมอร์ใช้ประเทศไทยเป็นฐานหลอกคนข้ามไปทำงานอีกฝั่ง จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หากสื่อต่างประเทศลงข่าว ก็ต้องดูว่าเป็นสื่อจริงหรือสื่อหลักหรือไม่ สื่ออะไรไม่รู้ก็มี หากวันๆ อ่านแบบนี้ทั้งหมด ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เราต้องยึดสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และตนก็ได้รับรายงานจากทางตำรวจว่า บางคนถูกหลอกมาและถูกต้มตุ๋น ถูกบังคับขู่เข็ญออกไปทางด้านชายแดน เช่นทาง อ.แม่สอด ก็มี ซึ่งในภาพถ่ายวิดีโอทั้งหลาย ก็เห็นชัดเจนว่าไม่มีการลักลอบออกไป และไม่มีการใช้กำลังข่มขู่ หรือทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น เราต้องใช้วิธีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ต้องเรียนว่าเรื่องนี้มีความตื่นตัวเยอะ ตำรวจก็ให้ความสนใจมาก แสวงหาความร่วมมือเยอะ

 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง