ประชาธิปัตย์ประกาศพร้อมทั่วประเทศ 5 พ.ย. เปิดรับสมาชิกใหม่–ผู้สมัครหน้าใหม่ ยึดแนวทางสุจริต โปร่งใส สู้การเมืองใช้เงิน พร้อมชูนโยบายดูแลคนกรุงเรื่องขนส่งและคุณภาพชีวิต

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 นายสกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายให้ตนไปพิจารณาการจัดตัวผู้สมัคร สส. ซึ่งดูจากบัญชีเก่าก่อน และทาบทามคนเก่าที่มีศักยภาพ มีความประสงค์จะส่งสมัคร และยังอยู่กับพรรค รวมถึงคนที่มีคะแนนส่วนตัวเยอะ พร้อมทั้งเปิดรับคนใหม่ๆ เข้ามาร่วมงานด้วย โดยในวันที่ 5 พ.ย.นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะจัดแคมเปญพร้อมกันทั่วประเทศ โดยเป็นกิจกรรมเปิดรับสมัครคนนอกและคนใหม่ๆ ที่มีความสนใจอยากจะมาทำงานร่วมกับพรรคฯ ซึ่งอาจมาลงสมัคร สส. เป็นทีมงานหาเสียง หรือมาช่วยขับเคลื่อนนโยบายในด้านต่างๆ สามารถมาสมัครได้ตรงที่พรรคฯ หรือสมัครออนไลน์ได้

“ตอนนี้ เตรียมผู้สมัครไว้เยอะพอสมควร เรายังไม่ได้ปิดโอกาสคนใหม่ๆ เพราะยิ่งใน 1 เขต มีผู้ประสงค์จะลงสมัครหลายคนก็ยิ่งดี จะได้มีคนคุณภาพมาเปรียบเทียบในการคัดตัวผู้สมัคร และกรรมการบริหารพรรคก็จะพิจารณาว่าใครเหมาะสม”นายสกลธี กล่าว

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนนโยบายพรรคฯนั้น ประธานภาพใหญ่ คือนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคฯ ซึ่งจะประชุมและกระจายไปด้านต่างๆ ซึ่งในส่วนนโยบายของกรุงเทพฯ ได้มีการประชุมไปครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งนายกรณ์อยากให้ดูเรื่องการขนส่งและคมนาคม เพราะเป็นปัญหาหลักของคนกรุงเทพฯ ในเรื่องการจราจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า การเชื่อมต่อการเดินทางต่างๆให้สะดวกขึ้น เพราะการแก้ปัญหาด้านการจราจรหลายสิบปีก็ยังไม่ได้กระเตื้องขึ้น จึงจะมอบหมายให้ทีมไปดูว่ามีรูปแบบไหนที่ทำให้การจราจรของกรุงเทพฯ เบาบางและดีขึ้น อาทิ ควรลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าหรือไม่ โดยทำให้ค่ารถโดยสารลดลง แต่เป็นตัวเลขที่ยืนยันจริงโดยที่รัฐไม่ต้องไปอุดหนุนมาก หรือมีเส้นทางไหนที่ควรจะมีรถไฟฟ้า หรือขนส่งมวลชนแบบอื่นเพิ่ม เพื่อเป็นการเชื่อมโยงขนส่งสาธารณะต่างๆ ส่วนรายละเอียดคงต้องคิดกันอีกครั้ง เพราะมีเวลาน้อย โดยแบ่งแต่ละทีมไปดำเนินการ

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชูอะไรเป็นพิเศษในกรุงเทพฯ เพราะคนกรุงเทพฯ มักเลือกตามกระแส นายสกลธี กล่าวว่า นโยบายภาพรวมมีผลแต่น้อย แต่ทุกคนเห็นตรงกันว่าจุดยืนและทิศทางของพรรค รวมถึงบุคลากรเป็นเรื่องสำคัญเพราะฉะนั้นทิศทางของพรรคในเรื่องต่างๆ ต่อจากนี้ จะต้องออกไปด้วยความมั่นคงในอุดมการณ์ของพรรคฯ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ชูว่าพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการใดก็ตามโดยยึดอุดมการณ์สุจริตเป็นที่ตั้ง จะทำการเมืองแบบสวนกระแสที่ขณะนี้เป็นการเมืองที่ใช้เงินมาก เราจึงเน้นบุคลากร เพราะหลายอย่างบุคลากรที่เข้ามาพรรคฯตอนนี้และในอนาคตที่กำลังจะเข้ามาเราเน้นถึงความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเราจะขายจุดคนคุณภาพ รวมถึงจุดยื่นในด้านต่างๆทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตก็ต้องออกมาด้วยความระมัดระวังและเป็นอุดมการณ์ของพรรคฯ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะเอาสู้กระสุนหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ใช่ เพราะเราเห็นตรงกันว่าการเมืองที่ผ่านมาในช่วงเกือบสิบปี เป็นการเมืองที่ใช้เงินนำหน้าและที่มาของเงินก็เป็นเงินสเปก เงินสีเทาที่วนเข้ามาในการเมือง ตามที่เราเห็นข่าวที่มีทั้งสแกมเมอร์ การพนันออนไลน์ พอได้รับเลือกเข้ามามีอำนาจก็ไปทำสิ่งพวกนี้เอาเงินมาซื้อเสียงอีก ซึ่งก็วนไม่จบไม่สิ้น และกัดกินประเทศ ดังนั้น แนวทางของหัวหน้าพรรคฯ และผู้บริหารพรรคฯ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้อยู่แล้ว บุคคลากรของเราจึงต้องมีความชัดเจนในเรื่องความสุจริตก่อน และเราคงไม่พูดแบบปากว่าตาขยิบ ถ้ามีคนของเราเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ ตนคิดว่าหัวหน้าพรรคฯและกรรมการบริหารพรรคจะดำเนินการอย่างจริงจัง