การเมือง
"จุลพันธ์" แนะเปลี่ยนนายกฯ ปราบสแกมเมอร์ไม่ตอบโจทย์ ยื่นซักฟอกเป็นการตรวจสอบไม่ใช่เรื่องด่าไม่ด่า
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
"จุลพันธ์" แนะเปลี่ยนนายกฯ ปมปราบสแกมเมอร์ มองไม่ตอบโจทย์ ชี้ยื่นซักฟอกรัฐบาลเป็นการตรวจการบ้านตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องด่าไม่ด่า พร้อมขออย่าเอาประเด็นแก้รัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ระบุหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจจะมีการยุบสภา เพราะไม่อยากถูกด่าฟรี ว่า อย่าไปมองเช่นนั้น ช่วงนี้นายกรัฐมนตรีอาจจะอารมณ์ร้อน แต่กระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยในการยื่นญัตติ เช่น มาตรา 151 คือการตรวจสอบรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องด่าหรือไม่ด่า พวกตนตรวจสอบ เพราะเป็นฝ่ายค้าน และเมื่อใครเป็นฝ่ายค้านกระบวนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นอยากให้รัฐบาลมองว่า เป็นเรื่องการตรวจสอบ เป็นการตรวจการบ้าน และหากมองว่าประพฤติถูกต้อง ไม่มีเรื่องทุจริตคอรัปชั่น เรื่องที่เขาว่ากันว่าปัดเป่า ทั้งคดี ฮั้ว สว. เขากระโดง ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ต้องห่วง ถ้าอภิปรายไปแล้วยังเป็นหนังเรื่องเก่า เนื้อเรื่องเก่า ก็เป็นความเสียหายของฝ่ายค้านที่จะดำเนินการในการอภิปราย และเป็นเวทีเปิดสภาไม่ใช่พูดแค่ฝั่งเดียว พวกตนอภิปรายได้ท่าน ก็สามารถตอบได้ หากตอบได้เคลียร์ ตอบได้ชัด ก็เป็นโอกาสของรัฐบาลในการชี้แจงทำความเข้าใจ ไม่ใช่แค่กับสภาเท่านั้น แต่กับประชาชนชาวบ้านที่ได้ฟังด้วย
“อย่าไปมองว่า เป็นเรื่องการไปด่าหรือไม่ด่ากัน แต่ที่จริงแล้วเป็นเรื่องการตรวจสอบตามระบบ และผมก็ต้องมองหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างแรกคือข้อมูลการกระทำความผิดนั้นสมบูรณ์หรือยัง สำเร็จหรือยัง มีการดำเนินที่ผิดพลาดโดยรัฐบาลจริงหรือไม่ ผมก็ต้องดู”
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวว่า ต้องมองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญประกอบด้วย เพราะวันนี้กรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมเดินหน้าไปอย่างช้าๆ ซึ่งตนอยู่ในกรรมาธิการด้วย มองว่า โอกาสที่จะสำเร็จเป็นไปได้น้อย เพราะบรรยากาศในที่ประชุมการอภิปรายของแต่ละฟากฝั่งอ่านกันออก ว่าโอกาสที่จะผ่านวาระ 3 มีมากน้อยเพียงใด หากติดตามบันทึกการประชุม ซึ่งไม่ใช่ความลับ จะรู้ว่าใครพยายามผลักดันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมันติดขัดอะไร สุดท้ายไม่อยากให้รัฐบาลเอาเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกัน เพราะพวกตน ต้องดูผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก พวกเราคำนึงถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน ตนเชื่อว่า พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนถึงแม้จะเข้าสู่กระบวนการ MOA และตั้งรัฐบาลมา เขาก็ต้องดูเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกัน และดูความคาดหวัง ความสำเร็จมีมากน้อยเพียงใด หากทิศทางเป็นไปได้ยาก ในการจะผ่านแนวโน้ม MOA มันไม่สำเร็จก็เป็นไปได้ อาจจะมีกระบวนการมาพูดคุยกัน เรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งพวกตนยืนยันว่า เราคำนึงถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มันไม่สามารถหยุดการทำงานของพวกเราในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศจากการทุจริต คอรัปชั่น และการปัดเป่าคดีต่างๆ
เมื่อถามว่า หากเปิดสมัยประชุมหน้า วันที่ 12 ธ.ค. จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่มี ไม่ได้พูดคำนั้น และยังไม่มีข้อสรุป ทางพรรคต้องมีการประชุมหารือกันกับผู้ใหญ่หลายคน เพื่อจะมาดูว่าความเหมาะสม และจังหวะเวลาคืออะไร จะดำเนินการหรือไม่อย่างไรต้องมาดูกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า ที่บอกว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้า ปัจจัยเกิดจากอะไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนพูดแต่แรกว่ากรอบเวลา 4 เดือนกระชั้น กฎหมายประชามติกำหนดว่า การทำประชามติ เมื่อรัฐสภาส่งเรื่องไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 60 วันไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างน้อยต้องมีระยะเวลาที่ถอยร่นมา กระบวนการลงมติวาระ 2 และวาระ 3 รัฐธรรมนูญกำหนดต้องห่างกัน 15 วัน เพราะฉะนั้นพวกตนคำนวณมาตั้งแต่ต้น และพูดในวันอภิปรายวาระ 1 ควรจะมีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 18-19 พ.ย. เพื่อลงมติวาระ 2 ช่วงวันที่ 20 พ.ย. และวันที่ 8 ธ.ค. ลงมติวาระ 3 เพื่อที่การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทันกรอบเวลา แต่ดูการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการบางฝ่ายยังไม่เร่งรัดอย่างที่เราต้องการ พวกตนพยายามเร่งรัด ก็ดูจะเชื่องช้าไป รวมถึงข้อคิดเห็นในลักษณะที่เป็นอุปสรรค เช่น มีบางฝ่ายเสนอว่ากรณีร่างรัฐธรรมนูญผ่านกระบวนการครบถ้วนแล้ว ก่อนไปลงประชามติ ต้องให้ความเห็นชอบในรัฐสภา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อยากให้คงสัดส่วนสมาชิกวุฒิสภาในการเห็นชอบ 1 ใน 3 ไว้ เมื่อฟังแบบนี้ก็รู้แล้วว่าโอกาสยาก เพราะเราเห็นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา เสียง 1 ใน 3 ของสมาชิกวุฒิสภา เป็นปัญหามาตลอดเป็นจำนวนที่เราหาลำบาก
เมื่อถามว่า ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายรัฐบาล และ สว. ด้วยหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมความคิดเห็นอาจล้อกันไปในหลายประเด็น ทั้ง สว. และ สส.ฝั่งรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลอาจจะกังวลที่ถูกโจมตีเรื่องสแกมเมอร์ ขณะที่ นายรังสิมันต์โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ก็ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกจากตำแหน่ง นายจุลพันธ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ดำเนินการเรื่องปราบสแกมเมอร์อย่างเข้มข้น ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นผู้ที่สามารถลดปริมาณ 40% ของสแกมเมอร์ในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ แต่ปรากฏว่าหลังจากที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล ในช่วงแรกพรรคเพื่อไทยก็จับตาดู เพราะตัวเลขความเสียหายของประชาชนเริ่มสูงขึ้น ซึ่งเมื่อมีรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม ก็ปรากฏว่ากระบวนการที่จะเข้าไปดำเนินการอย่างจริงจังกลับไม่เห็น ซึ่งเราจะติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและจะเร่งรัดให้รัฐบาลไปดำเนินการในการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์
“พวกเราไม่ได้พุ่งเป้าไปพรรคใด ไม่ได้บอกว่าเป็นพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส หรือพรรคของนายอนุทิน ซึ่งผมเข้าใจว่าข้อเรียกร้องของคุณโรม คือให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี แต่ผมมองว่าต้องเปลี่ยนตัวที่ตัวนายกฯ นั่นแหละ เพราะว่ากระบวนการในการทำงานของท่านนายกฯ ที่ผ่านมาไม่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้”
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- อนุฯวิจัยฯวุฒิสภาปักธง 3 หมุดหมายมุ่งตอบสนองงานนิติบัญญัติรัฐสภาไทย 7 พ.ย. 2568
- เพื่อไทยเปิดตัวเพิ่มอีก 31 คน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.รวมทั้งสิ้น 265 เขต ทายาทนักการเมืองพรึบ "จุลพันธ์" มั่นใจนำประชาชนสู่ชัยชนะ 7 พ.ย. 2568
- "ณัฐพล" ยันจะปล่อยตัว 18 เชลยศึก 12 พ.ย.นี้ได้ กัมพูชาต้องบรรลุข้อตกลง 2 ใน 4 ข้อก่อน คาดข่าวเกิดจากฝั่งเขมร 7 พ.ย. 2568
- "จุลพันธ์" แนะเปลี่ยนนายกฯ ปราบสแกมเมอร์ไม่ตอบโจทย์ ยื่นซักฟอกเป็นการตรวจสอบไม่ใช่เรื่องด่าไม่ด่า 7 พ.ย. 2568
- รับมือ "คัลแมกี" ถล่ม! "ธรรมนัส" สั่งระบายน้ำทั่วประเทศ กทม.เฝ้าระวัง "3 น้ำ" ซัดพร้อมกัน 7 พ.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ดร.นิยม" ร่วมอนุโมทนากฐินสามัคคีชาวบ้านโคกก่อง พร้อมสวดมนต์ทำวัตรเย็นกับชาวพุทธกว่า 300 คน 21:40 น.- "ปลอดประสพ" น้อมรำลึก "สมเด็จพระพันปีหลวง" กับป่าไม้ของไทย 20:44 น.
- "เต้ มงคลกิตติ์" ยังไม่ตัดสินใจอนาคตทางการเมือง รอดูทิศทาง "ดร.เฉลิมชัย" ไปต่อหรือพอแค่นี้ 18:30 น.
- "ดร.มหานิยม" ร่วมงานกฐินสามัคคี 3 หมู่บ้าน อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ทำบุญ 3 วัดในวันเดียว มุ่งทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ 17:40 น.
- “โสภณ”ลุยขับเคลื่อนนโยบาย “Quick Big Win” รวมพลังรักศรัทธาแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ ลุย 4 อำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ หลังประกาศเร่งด่วน 4 เดือนเห็นผล 17:10 น.



