วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 05:18 น.

การเมือง

น้ำท่วมภาคใต้ 9 จังหวัดวิกฤต! ปภ. เผยกระทบกว่า 9.8 แสนครัวเรือน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ใน 1 เดือนเสียหายไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้าน 

วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.21 น.

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ทั่วประเทศ พบภาพรวมแบ่งเป็นสองโซนชัดเจน โดยสถานการณ์ น้ำท่วมภาคใต้ ยังคงน่าเป็นห่วงใน 9 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นขณะที่พื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานการณ์เริ่มคลี่คลายและ ระดับน้ำลดลง อย่างต่อเนื่อง

ธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยข้อมูลจากการติดตามของศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย (ณ เวลา 06.00 น.) ว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัยรวม 20 จังหวัด ครอบคลุม 151 อำเภอ 8,003 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อประชาชน 1,128,284 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย โดยทาง ปภ. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ

  เกาะติด "น้ำท่วมภาคใต้" 9 จังหวัด พื้นที่ส่วนใหญ่ระดับน้ำยังเพิ่มสูง

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ถือว่ายังวิกฤต โดยมีพื้นที่ประสบภัย 9 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 9.8 แสนครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตในโซนภาคใต้รวม 18 ราย (นครศรีธรรมราช 6, สงขลา 5, ปัตตานี 3, ยะลา 2 และพัทลุง 2 ราย) โดยรายละเอียดสถานการณ์รายจังหวัด มีดังนี้

กลุ่มจังหวัดที่ระดับน้ำ "เพิ่มขึ้น" (ต้องเฝ้าระวังพิเศษ)

นครศรีธรรมราช: กระทบ 22 อำเภอ อาทิ เมืองฯ, ทุ่งสง, ปากพนัง (223,221 ครัวเรือน)

สงขลา: กระทบ 16 อำเภอ อาทิ หาดใหญ่, เมืองฯ, สะเดา (320,887 ครัวเรือน)

พัทลุง: กระทบ 11 อำเภอ อาทิ เมืองฯ, ควนขนุน (148,115 ครัวเรือน)

ปัตตานี: กระทบ 12 อำเภอ อาทิ เมืองฯ, หนองจิก (114,620 ครัวเรือน)

นราธิวาส: กระทบ 12 อำเภอ อาทิ สุไหงโก-ลก, ระแงะ (79,641 ครัวเรือน)

ยะลา: กระทบ 8 อำเภอ อาทิ เมืองฯ, เบตง (45,634 ครัวเรือน)

ตรัง: กระทบ 9 อำเภอ อาทิ เมืองฯ, กันตัง (12,647 ครัวเรือน)

สตูล: กระทบ 7 อำเภอ อาทิ เมืองฯ, ละงู (26,219 ครัวเรือน)

 กลุ่มจังหวัดที่ระดับน้ำ "ลดลง"

สุราษฎร์ธานี: ยังมีน้ำท่วมใน 4 อำเภอ ได้แก่ ท่าฉาง, กาญจนดิษฐ์, เคียนซา และพระแสง

  ปภ. ตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เพื่อรับมือกับวิกฤต น้ำท่วมภาคใต้ ที่ยังรุนแรง ปภ. ได้ยกระดับการจัดการโดยจัดตั้ง ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา  เพื่อบัญชาการเหตุการณ์และระดมทรัพยากรเข้าช่วยเหลือทันที ประกอบด้วย ทีมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เรือท้องแบน และ เจ๊ตสกี  เครื่องจักรกลสาธารณภัย เฮลิคอปเตอร์ KA-32 สนับสนุนพื้นที่เข้าถึงยาก
รถประกอบอาหาร และ รถผลิตน้ำดื่ม เพื่อดูแลเรื่องปากท้องประชาชน ทั้งนี้ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์ น้ำลดลง แล้ว ปภ. เตรียมเร่งเข้าสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการเยียวยาและฟื้นฟู ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ความเสียหาย น้ำท่วมภาคใต้ ใน 1 เดือนไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท
 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่า จากเหตุอุทกภัยครั้งร้ายแรงสุดที่สงขลา ซึ่งหนักมากต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน และในอีกหลายจังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ปัตตานี ตรัง สตูล ยะลา ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนรวมแล้วราว 8 แสนครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4 แสนไร่ กระทั่งปัจจุบัน สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และไปข้างหน้าก็ยังมีความเสี่ยงที่ปริมาณน้ำฝนและน้ำท่าอาจจะยังมากอยู่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรก ผลกระทบทันทีจากการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งพอจะประมาณได้ ส่วนที่สอง จากความเสียหายต่อสินทรัพย์ ซึ่งซับซ้อนกว่า เพราะความเสียหายอาจทยอยรับรู้ในอนาคตโดยหลายภาคส่วน นอกเหนือไปจากครัวเรือน เช่น รัฐบาล สถาบันการเงิน คู่ค้า ฯลฯ

สำหรับส่วนแรกนั้น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจในเบื้องต้นอาจคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาทในกรอบเวลา 1 เดือน หรือราว 0.13% ของขนาดเศรษฐกิจประเทศไทย (Nominal GDP) บนสมมติฐานเหตุการณ์รุนแรงในช่วง 10-15 วันแรก และความรุนแรงทยอยลดระดับลงในอีก 10-15 วันถัดมา โดยผลกระทบหลักอยู่ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งช่วงแรกประสบภัยในแทบทุกพื้นที่

โดยหลักๆ จะมาจากการหยุดชะงักลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคบริการ (สถานที่พักแรม ร้านอาหาร ค้าปลีก ขนส่ง เป็นต้น) และการผลิตอุตสาหกรรม (เช่น เกษตรและอาหารแปรรูป) ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 56% และ 18% ตามลำดับในจังหวัดสงขลา รวมไปถึงการหยุดให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างไฟฟ้าและประปา (สัดส่วนกว่า 3%)

ขณะที่ เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงปลายปีที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจมักจะคึกคักขึ้นตามปัจจัยด้านฤดูกาลของการท่องเที่ยว อีกทั้งอยู่ในช่วงที่ไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพงานกีฬาซีเกมส์ 9-20 ธันวาคม 2568 และสงขลาเป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันหลายประเภทกีฬา นอกจากนี้ ความเสียหายส่วนที่เหลือของสงขลาและในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ผลกระทบจะเป็นภาคเกษตร ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน รวมถึงพื้นที่เลี้ยงสัตว์น้ำหรือประมง

เมื่ออุทกภัยทยอยคลี่คลาย ผู้ประสบภัยจะได้รับผลกระทบจากการจัดการความเสียหายของสินทรัพย์เพิ่มเติม เช่น อาคาร รถยนต์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งการรับรู้ผลกระทบในส่วนที่สองนี้ ทั้งการซ่อมแซม/ฟื้นฟู/ซื้อใหม่ คงจะทยอยใช้เวลา และยังต้องขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เงินออมและความสามารถในการหารายได้ของแต่ละครัวเรือน ภาวะเศรษฐกิจ ความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้และคู่ค้าต่างๆ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงิน ตลอดจนมาตรการจากภาครัฐ
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง