การเมือง
ศึกชายแดนเดือด! ไทยย้ำกัมพูชาเปิดฉากก่อน แจงทูตปฏิบัติการเฉพาะจุด รัฐบาลปัดข่าวเดดไลน์หยุดยิง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงการปฏิบัติการทางทหารต่อเป้าหมายทางทหารกัมพูชา ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศเชิญทูตรับฟังสถานการณ์ ด้าน "สีหศักดิ์" ยืนยัน "เขมร" ยิงก่อน
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงผลการปฏิบัติทางทหารในการโจมตีเป้าหมายภายในขอบเขตเส้นปฏิบัติการ หรือ Line of Operation ที่เป็นภัยคุกคาม โดยภารกิจทั้งหมดถูกวางแผนและดำเนินการภายใต้หลักการปฏิบัติด้านความมั่นคงและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด พร้อมให้ความสำคัญสูงสุดต่อการป้องกันผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ
โดยในวันนี้ 8 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ได้ตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของไทย รวมทั้งต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่ชายแดน จากการตรวจสอบข้อมูลทางยุทธการพบว่า ฝ่ายกัมพูชา มีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนัก การจัดกำลังทำการรบ และการเตรียมการยิงสนับสนุน ซึ่งอาจมีลักษณะที่คุกคามเสถียรภาพและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน จึงนำไปสู่การปฏิบัติทางทหาร เพื่อยับยั้ง และทำลายให้กัมพูชาสิ้นสภาพขีดความสามารถทางทหาร ในระดับที่จำเป็นต่อการรักษาความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
มีการปฏิบัติที่สำคัญ ได้แก่.
1) การยิงทำลายตึกร้างที่ทำการเครือข่ายสแกมเมอร์ พื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
2) การยิงทำลายเสา Anti Drone พื้นที่พระวิหารและห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
3) การกวาดล้างสวนมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งรุกล้ำเส้นปฏิบัติการ บริเวณช่องระยี ทางทิศตะวันออกช่องจอม
4) การเข้าควบคุมปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
5) การยิงทำลายกระเช้าลำเลียงเสบียงเนิน 350 ปราสาทตาควาย
โดยคาดว่าในห้วงเวลากลางคืนฝ่ายกัมพูชาอาจมีการใช้อาวุธจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) ยิงต่อประชาชนพลเรือน เพ่งเล็งพื้นที่เดิมที่เคยถูกยิง ทำลาย เพื่อสร้างความสับสนให้กับสนามรบ
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้ปฏิบัติภารกิจอย่างรอบคอบตามหลักสากลของการป้องกันตนเอง (Right of Self-Defence) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ ยึดหลักความจำเป็นและความ
ได้สัดส่วน (Necessity & Proportionality) อย่างเคร่งครัด โดยกำหนดเป้าหมายเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการทางทหาร และเส้นทางสนับสนุนการรบที่เป็นภัยต่อความมั่นคง
กองทัพภาคที่ 2 ตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ และลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นต่อภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อเอกราชอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้เป้าหมายสูงสุด คือการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
โฆษกรัฐบาลปฏิเสธไทยยื่นเดดไลน์ให้ "กัมพูชา" ต้องหยุดยิงก่อน 18.00 น. ยืนยันไม่เคยพูดเรื่องนี้
กระทรวงการต่างประเทศเชิญ คณะทูต อุปทูต และผู้แทนสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เข้ารับฟังการบรรยายสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาเปิดฉากโจมตีไทย
โดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ได้สรุปเหตุการณ์ที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงและเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารสองฝ่าย เป็นผู้บรรยายสรุป
นายสีหศักดิ์ ชี้แจงว่าในวันนี้ตนจะพูดถึงที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มโจมตีไทยก่อนและท่าทีของประเทศไทย โดยเมื่อวานที่ผ่านมาทหารกัมพูชาเริ่มเปิดฉากโจมตีทหารไทย บริเวณภูผาเหล็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากนั้นก็มีการยิงต่อเนื่อง และในช่วงเช้าวันนี้ ช่วงเวลา 05.50 น. กัมพูชายิงมาในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นการปะทะกันที่รุนแรง และเกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้นในหลายพื้นที่ ปราสาทคนา จังหวัดสุรินทร์ ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเหมือนธม และที่จังหวัดศรีสะเกษ บริเวณห้วยตามาเรีย ภูมะเขือ รวมถึงจังหวัดบุรีรัมย์
ขณะที่ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า ไทยได้ยื่นเดดไลน์ให้กัมพูชา ต้องหยุดยิงอาวุธหนักข้ามพรมแดนภายในเวลา 18.00 น. วันนี้ โดยระบุว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้
พลเอกณัฐพลออกแถลงการณ์ ยืนยันไทยถูกกระทำก่อน
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์สถานการณ์การปะทะระหว่างไทย – กัมพูชา ในวันนี้
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ “นับตั้งแต่มีการทำข้อตกลงถ้อยแถลงร่วมโดยนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยผลการประชุมของทั้งสองฝ่าย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย (Joint Declaration) ประเทศไทยได้ยึดมั่นในการปฏิบัติตามตลอดมา โดยคำนึงถึงความสงบสุขของประชาชนทั้งสองประเทศและความสงบสุขในภูมิภาค แม้จะมี
การกระทำอันเป็นการละเมิดความตกลงและยั่วยุของฝ่ายกัมพูชามาโดยตลอด
เช้าวันนี้ (8 ธันวาคม 2568) กัมพูชาได้เริ่มการโจมตีทางทหารหลังจากการที่กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยหลักฐานที่ประจักษ์ชัดถึงการละเมิดของฝ่ายกัมพูชา ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22 (อนุสัญญาออตตาวา) และใช้โอกาสที่ประเทศไทยยังอยู่ในภาวะวิกฤติจากเหตุอุทกภัย โดยใช้อาวุธสงครามร้ายแรงโจมตีกองทัพไทย ในลักษณะที่คุกคามต่อชีวิตกำลังพล ประชาชน และอธิปไตยของไทย โดยไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมที่ประเทศเพื่อนบ้านพึงกระทำต่อกัน ทั้งที่ฝ่ายไทยได้ยึดถือแนวทางสันติวิธีเสมอมา
การกระทำของฝ่ายกัมพูชาแสดงออกอย่างชัดแจ้ง ถึงความไม่จริงใจในการร่วมกันสร้างสันติภาพ การที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธร้ายแรงโจมตีต่อฝ่ายไทย เป็นเหตุให้ทหารไทยบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหาย แสดงให้เห็นว่ากองทัพกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามถ้อยแถลงร่วมที่ได้ให้ไว้ มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ทำลายสันติภาพที่ประเทศไทยพยายามสร้างและประคับประคอง ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเองอย่างเต็มรูปแบบตามกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ชีวิตของทหาร และประชาชนคนไทยทุกคน
ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ฝ่ายไทยมีความชอบธรรมตามกฎหมายภายในและกฎหมายระหว่างประเทศที่จะตอบโต้ผู้ทำลายสันติภาพ อย่างเด็ดขาด เมื่อเราเป็นผู้ถูกกระทำก่อน ทั้งนี้ เพื่อยุติภัยคุกคามและคืนความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนชาวไทยบริเวณชายแดน ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่า ที่ผ่านมากองทัพไทยได้ยึดมั่นแนวทางสันติวิธีในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย โดยพร้อมที่จะตอบโต้และควบคุมสถานการณ์ ภายใต้กรอบหลักการสากล มีเหตุผล คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามมติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2568 และ 8 ธันวาคม 2568
ประเทศไทยรักสันติ รักความสงบ แต่จะไม่ยอมให้ใครละเมิดอธิปไตย เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด พร้อมทั้งจะรายงานความจริงให้สังคมไทยและประชาคมโลกได้รับทราบอย่างโปร่งใส ผมขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนทุกคน และครอบครัวของพวกเขา ตลอดจนพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน กระทรวงกลาโหมจะร่วมกับทุกส่วนราชการในการดูแล และสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่า กองทัพไทยมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อความสงบสุขของประชาชน”
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "ทบ." แถลงทหารพลีชีพรวม 2 นาย ใช้ F-16 เร่งทำลายฐานอาวุธ-กาสิโนเขมร ไม่ชัดมี BM-21 กี่พื้นที่ 8 ธ.ค. 2568
- โฆษกทอ. ยัน ส่ง F-16 โจมตีเป้าหมายทางทหารกัมพูชา เขมรยิง BM21 ตกบ้านเรือนประชาชนฝั่งไทย 8 ธ.ค. 2568
- "อนุทิน" แถลงมติ สมช.เปิดปฏิบัติการทางทหารต่อกัมพูชาตามสถานการณ์ทุกกรณีตามความจำเป็น ยืนยันทำตามหลักสันติ-มนุษยธรรม 8 ธ.ค. 2568
- "อนุทิน" ประกาศปิดช่องเจรจากัมพูชา ไม่สน "ทรัมป์-อันวาร์" ชี้เป็นเรื่องไทยกับคู่กรณี - กองกำลังบูรพา เริ่มปฏิบัติการยึดพื้นที่ ชายแดนสระแก้ว 8 ธ.ค. 2568
- ศึกชายแดนเดือด! ไทยย้ำกัมพูชาเปิดฉากก่อน แจงทูตปฏิบัติการเฉพาะจุด รัฐบาลปัดข่าวเดดไลน์หยุดยิง 8 ธ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
“อามินทร์” ลงพื้นที่กระบี่ หนุนเกษตรแปลงใหญ่ ดันมาตรฐานฟาร์ม–โรงฆ่าฮาลาล เพิ่มศักยภาพเกษตรกรรองรับตลาดมุสลิมใน–ต่างประเทศ 20:17 น.- Thailand Classic Guitar Contest 2025 – “เพลงของพ่อ” เปิดเวทีอย่างงดงาม ณ ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน 20:15 น.
- "ดร.มหานิยม" เป็นประธานงานฌาปนกิจศพ "คุณยายนนท์ เมามีจันทร์" อายุ 93 ปีเมืองสกลนคร 19:16 น.
- ไทยพร้อมโชว์ศักยภาพสินค้าเกษตรคุณภาพพรีเมียม สู่ตลาดซาอุดิอาระเบียในงาน Agro Food Jeddah 2025 19:05 น.
- “อนุทิน” ลงพื้นที่สตูล เร่งฟื้นฟูเมือง – วางแผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาว ย้ำลงทุนป้องกันครั้งเดียว คุ้มกว่าจ่ายเยียวยาซ้ำทุกปี 18:27 น.


