วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568 01:59 น.

การเมือง

ทบ. ประณามกัมพูชาโจมตีชุมชนพลเรือน ใช้กำลังไม่เลือกเป้าหมาย ค้นบ้านหนองจาน ยึดบัญชีม้า-มือถือเกลื่อน

วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 09.50 น.

กองทัพบก ประณาม กัมพูชาโจมตีชุมชนพลเรือน ใช้กำลังไม่เลือกเป้าหมาย ชี้สร้างผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนคนไทยในพื้นที่ชายแดน กกล.บูรพาค้นบ้านหนองจาน ยึดของกลางบัญชีม้า-มือถือเกลื่อน ใช้เป็นฐานหลอกคนไทย ทร.แถลงการณ์ จัดหมวดเรือพิทักษ์อ่าวไทยใต้เกาะกูด เสริมความมั่นคง  

เมื่อวันที่ 20  ธันวาคม 2568   พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ใช้กำลังทางทหารและอาวุธโจมตีเข้ามาในพื้นที่ในพื้นที่ชุมชนและบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่พลเรือนและมิใช่พื้นที่ทางทหาร การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดหลักการคุ้มครองพลเรือนตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและบรรทัดฐานตามหลักสากลอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก

การใช้กำลังในลักษณะดังกล่าว ได้สร้างความสูญเสียและความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างกว้างขวาง ทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้ต้องดำรงชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัวและความไม่มั่นคง อันเป็นผลจากการใช้กำลังที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านมนุษยธรรมและความปลอดภัยของพลเรือน

สถานการณ์ความไม่สงบและการใช้กำลังทางทหารบริเวณแนวชายแดน ซึ่งยังคงมีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยเป็นวงกว้าง มีประชาชนได้รับผลกระทบรวมประมาณ 400,000 ราย จากสถานการณ์ดังกล่าว พบว่า มีประชาชนเสียชีวิตรวม 23 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากกรณีอาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ตกในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนโดยตรง จำนวน 1 ราย และผู้เสียชีวิตจากผลกระทบทางอ้อมของเหตุการณ์ จำนวน 22 ราย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีดังกล่าวอีก 6 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดล้วนเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบแต่อย่างใด

นอกจากความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชนแล้ว การกระทำดังกล่าวยังสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน โดยมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 30 หลัง พื้นที่ทำการเกษตรซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถประกอบอาชีพหรือดำรงชีวิตได้ตามปกติ

นอกจากนี้ พบว่ามีโรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบ 201 แห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลพนมดงรักที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โดยตรง ขณะเดียวกัน ความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้สถานศึกษาหลายแห่งในพื้นที่ชายแดนต้องหยุดการเรียนการสอน เด็กและเยาวชนไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ตามปกติ ขาดโอกาสทางการศึกษา และต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและต่อเนื่องต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงในการดำรงชีพของประชาชนในระยะยาว

โฆษกกองทัพบก ระบุว่า การมุ่งเป้าโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นการใช้กำลังในลักษณะไม่เลือกเป้าหมายซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อชีวิตประชาชนเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ประชาชนคนไทยไม่ควรต้องตกเป็นเป้าหมายหรือได้รับผลกระทบจากการกระทำทางทหารในลักษณะดังกล่าวกองทัพบกขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ก่อให้เกิดความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในทันทีพร้อมทั้งปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด

กกล.บูรพา ค้นบ้านหนองจาน ยึดของกลางบัญชีม้า-มือถือเกลื่อน ใช้เป็นฐานหลอกคนไทย
 
เพจเฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่ 1 รายงานว่า กกล.บูรพา บุกค้นบ้านชาวกัมพูชาที่เคยบุกรุกอาศัยอยู่ บ.หนองจาน พบหลักฐานชี้ชัดเกี่ยวข้องขบวนการสแกมเมอร์ของกัมพูชา  เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.68 กกล.บูรพา บุกค้นบ้านที่ชาวกัมพูชา เคยบุกรุกและอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านหนองจาน ก่อนหลบหนีไปหลังจากเหตุการปะทะ โดยสภาพบ้านหลายหลัง ถูกดัดแปลงเป็นที่ทำงานมีการเชื่อมต่อการสื่อสารคล้ายขบวนการคอลเซนเตอร์ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ตรวจพบสิ่งของจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าทั้งหมู่บ้านหนองจาน จะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ มีรายการที่สำคัญประกอบด้วย โทรศัพท์ 19 เครื่อง, โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง, สมุดบันทึก 4 เล่ม, สมุดบัญชีธนาคาร 63 เล่ม ซึ่งเป็นชื่อของชาวไทย, บัตรประชาชนคนไทย 3 ใบ คาดว่านำไปใช้เปิดบัญชีม้า และยังตรวจยึดบัตร ATM ได้อีก 10 ใบ

ทั้งนี้ ได้นำหลักฐานดังกล่าวส่งให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมจากหลักฐานที่ยึดได้ เพื่อนำไปสู่การขยายผลหาเครือข่ายที่เชื่อมโยงขบวนการสแกมเมอร์ในฝั่งกัมพูชา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของไทย

ทร.แถลงการณ์ จัดหมวดเรือพิทักษ์อ่าวไทยใต้เกาะกูด เสริมความมั่นคง
 
แถลงการณ์สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ กรณีเหตุการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของหมวดเรือพิทักษ์อ่าวไทย

ตามที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของหมวดเรือพิทักษ์อ่าวไทย บริเวณใต้เกาะกูด ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตื่นตระหนกนั้น

พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือขอชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแผน เพื่อรักษาความมั่นคงและป้องกันการกระทำที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในพื้นที่ทางทะเลของไทย โดยเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนและกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด

ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายและอยู่ภายใต้ในความควบคุมแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อประชาชน และไม่มีเหตุบานปลายเพิ่มเติม ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตและประกอบกิจกรรมได้ตามปกติ

กองทัพเรือขอความร่วมมือประชาชนติดตามข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการ และงดการเผยแพร่ข่าวหรือข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนก ทั้งนี้ กองทัพเรือยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประเทศเป็นสำคัญ

ทภ.2 พบกัมพูชา เสริมกำลังบางจุดบางพื้นที่มีปะทะและไร้เคลื่อนไหวมีนัย

 กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วานนี้ (19 ธ.ค.) ในหลายพื้นที่สำคัญ พบว่าบางจุดยังคงมีความตึงเครียดและเกิดการปะทะเป็นระยะ ขณะที่บางพื้นที่ไม่พบความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ

พื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี

บริเวณช่องบกไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ส่วนพื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยได้สถาปนาความมั่นคงในพื้นที่เป้าหมายและตรึงกำลังตลอดแนววางกำลัง

พื้นที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ

พื้นที่ซำแต–โดนตรวล–ภูผี–สัตตะโสม–พนมประสิทธิโส–ช่องตาเฒ่า ตรวจพบการขนน้ำมันและน้ำเข้าไปเติมในพื้นที่ภูผี ขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงใส่ฐานฝ่ายไทยหลายจุด ส่งผลให้บังเกอร์ได้รับความเสียหายและมีกำลังพลบาดเจ็บ รวมถึงมีการใช้รถถังและยานเกราะยิงในช่วงค่ำ ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ ทำให้ฝ่ายกัมพูชาต้องย้ายที่ตั้งยิงเพื่อปรับแนวการยิง

บริเวณผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย ตรวจพบการลำเลียงกำลังพล อาวุธ หลายครั้งตลอดทั้งวัน พบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรนจำนวนมาก รวมถึงการปรากฏของรถถัง ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงใส่ฐานฝ่ายไทยหลายจุด ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่และอาวุธสนับสนุนอื่น ๆ ทำลายเป้าหมายรถและที่ตั้งยิงของฝ่ายตรงข้ามเป็นระยะๆ

พื้นที่ภูมะเขือ–ช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน พบการใช้งาน UAV และโดรน FPV หลายลำ มีการยิงอาวุธหนักตกในพื้นที่หลายครั้ง ฝ่ายไทยได้ตอบโต้จนสร้างความเสียหายต่อเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา

พื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์

พื้นที่ช่องจอม–ช่องเปรอ–ช่องระยี และช่องกร่าง ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ พื้นที่คนา ฝ่ายไทยได้สถาปนาที่หมายและตรึงกำลังตลอดแนว

ส่วนพื้นที่ปราสาทตาควาย ฝ่ายตรงข้ามยิงอาวุธใส่ฝ่ายไทยและพยายามเสริมกำลัง ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ด้วยอาวุธปืนใหญ่และครกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม มีกำลังพลฝ่ายไทยบาดเจ็บ 1 นายจากกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ และได้นำส่งสายแพทย์แล้ว

พื้นที่ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์

บริเวณช่องสายตะกู ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ

โดยภาพรวมสถานการณ์รายงานระบุว่าวันนี้ (19 ธ.ค.) เป็นวันที่ฝ่ายกัมพูชาใช้งานโดรนและโดรน FPV หนาแน่นที่สุด ตรวจพบหลายสิบลำในช่วงบ่ายถึงค่ำ มีความพยายามเสริมกำลังและลำเลียงสัมภาระด้วยยานพาหนะหลากหลายประเภท การยิงอาวุธหนักเกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งสองฝ่าย

โดยฝ่ายไทยสามารถยิงทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะของฝ่ายตรงข้ามได้หลายครั้ง แม้มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ แต่สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะควบคุมได้ และมีการส่งต่อรักษาทางการแพทย์ ทั้งนี้ประเมินแนวโน้มว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังปรับปรุงที่มั่นและเตรียมการตั้งรับในพื้นที่สำคัญบางจุด
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง