เจ้าหน้าที่กัมพูชาผ่านจุดข้ามแดน ร่วมประชุม GBC ไทย–กัมพูชา ด่านบ้านผักกาด จันทบุรี เปิดหารือ 3 ประเด็นหลักด้านความมั่นคง "ยุติการยิงทันที-หยุดยิงต่อเนื่องมีผู้สังเกตการณ์-ร่วมเก็บทุ่นระเบิดจริงจัง" 30 นาทีเสร็จเดินทางกลับทันที

เวลาประมาณ 16.30 น. คณะผู้แทนฝ่ายกัมพูชา เดินทางถึงด่านผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี เพื่อเข้าร่วมการประชุมกองเลขานุการคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ระดับเลขาธิการ โดยฝ่ายกัมพูชานำโดย พลตรีแยม โบราเดน รองหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พร้อมคณะผู้แทนฝ่ายทหารและพลเรือน โดยฝ่ายไทยนำโดย พล.อ.ณัฐพงษ์ เผ่าแก้ว รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการกิจการทั่วไป GBC

ขณะที่ฝ่ายไทยเดินทางถึงสถานที่ประชุมก่อนหน้า ในเวลา 16.13 น. จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้เริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการ เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขสถานการณ์และเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม สื่อมวลชนได้รายงานถึง 3 ประเด็นสำคัญ ที่ฝ่ายไทยให้ความสำคัญในการหารือ ได้แก่ 1.ฝ่ายกัมพูชาจะต้องยุติการยิงในทันที 2.การหยุดยิงจะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เกิดขึ้นจริง และมีผู้สังเกตการณ์ เพื่อยืนยันการปฏิบัติ และ 3.ฝ่ายกัมพูชาจะต้องร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและกำลังพลทั้งสองฝ่าย

การประชุมระดับเลขาธิการ GBC ครั้งนี้ จัดขึ้นท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความตึงเครียด และสร้างเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนอย่างยั่งยืน ตลอดช่วงวันที่ 24-27 ธันวาคม 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเข้าไปประชุมกันเพียง 30 นาที คณะผู้แทนฝ่ายกัมพูชา ได้เดินทางกลับทันที

ทั้งนี้เพจWassana Nanuam ได้โพสต์ภาพและข้อความโดยสรุปว่า พลเอกณัฐพงษ์  เพราแก้ว  รองเสนาธิการทหาร   ในฐานะ เลขาธิการคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) นำคณะพบปะทักทาย นัดแนะ   เรื่องการประชุม ที่จุดผ่านแดนบ้านผักกาด โป่งน้ำร้อน จันทบุรี  ฝั่งกัมพูชา มี General Nhem Boraden, หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ GBC กัมพูชา โดย ใช้เวลาพบปะกันประมาณ 30 นาทีก่อนที่คณะฝ่ายกัมพูชาจะเดินทางกลับเข้าฝั่งกัมพูชา ไป  และเวลาประมาณ 17:00 น.

ทั้งนี้ กห.กัมพูชา  เสนอว่า การประชุม ของคณะเลขาธิการ 22 ถึง 26 ธันวาคมนี้จะต้องมีผู้สังเกตการณ์อาเซียน  ASEAN Observer Group (AOT) ของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาร่วมด้วย

กลาโหมกัมพูชา ส่งหนังสือทางการถึง กลาโหมไทย ขอเจรจาหยุดยิงตามกลไก GBC
 
 ต่อมาเฟซบุ๊กเพจกองบัญขาการกองทัพไทย โพสต์กัมพูชาส่งหนังสือทางการขอเจรจาหยุดยิงตามกลไก GBC ไทยย้ำต้องพิสูจน์ความจริงใจตาม 3 เงื่อนไขหลัก

ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงจุดยืนต่อเงื่อนไขการหยุดยิง บริเวณพื้นที่ชายแดน โดยระบุให้ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงเจตจำนงผ่านการปฏิบัติ 3 ประการ ได้แก่ การประกาศหยุดยิงก่อน การยุติการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง และความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นรูปธรรมนั้น

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย เพื่อแสดงความประสงค์ในการเจรจาหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญภายใต้กรอบเงื่อนไขที่ไทยกำหนด

ทั้งนี้ จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา นำไปสู่การจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ตามข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคม 2568 ณ จังหวัดจันทบุรี โดยฝ่ายไทยมี พลเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร และฝ่ายกัมพูชา มี Major General Nhem Boraden เป็นหัวหน้าคณะการประชุมฯ
 
โฆษกกระทรวงกลาโหม หวังกัมพูชาแสดงความจริงใจ 

พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เวลา 14.00 น.ว่า ยืนอยู่บน 5 หลักการ ในเรื่องของมนุษยธรรม ในเรื่องของความชอบธรรม ความโปร่งใสในเรื่องของการนำเสนอข่าวต่างๆ รวมไปถึงในเรื่องของความรวดเร็วทันเวลา เพื่อให้ประชาชนนั้นได้รับทราบข่าวสารได้อย่างทันท่วงทีได้อย่างเป็นลักษณะของ one voice one message ไปในทิศทางเดียวกันเป็นหลักการที่สำคัญ ซึ่งแตกต่างจากทางกัมพูชาโดยสิ้นเชิง ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาในเรื่องของหลักมนุษยธรรม การละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ นั้น กัมพูชาไม่ได้มีการปฏิบัติเเต่อย่างใด เป็นการละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง

สืบเนื่องมาจากผลของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษที่ผ่านมา มีผลของการประชุมที่ระบุว่าอยากจะให้ไทยและกัมพูชานั้นได้จัดเวทีการประชุมชีวิตภาคี GBC หรือคณะกรรมการชายแดนทั่วไป สมัยพิเศษวันนี้เป็นวันแรก (24 ธ.ค.68) โดยวันนี้จะเป็นการประชุมของทางฝ่ายเลขาฯ ระหว่าง 2 ประเทศ ไทม์ไลน์ของการประชุม วันที่ 24-26 ธันวาคม จะเป็นการประชุมฝ่ายเลขาของ GBC ที่ จ.จันทบุรี บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จากนั้นถ้าทุกอย่างนั้นเป็นไปตามแผน และการประชุมของฝ่ายเลขาฯ นั้น เมื่อได้ข้อตกลงอย่างชัดเจน จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 2 ประเทศ ในวันที่ 27 ธันวาคม ในช่วงเช้าที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี เช่นกัน

ล่าสุดก็คือในช่วงเย็นวันนี้ เป็นการเริ่มต้นของการประชุมฝ่ายเลขาฯ โดยทางฝ่ายไทยและทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการนัดพบกัน เพื่อประชุมกำหนดกรอบประเด็นหารือกัน เพื่อนำไปสู่การประชุมจริงในวันที่ 27 ธันวาคม ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะนำเสนอให้ทางผู้ชมทางบ้านได้รับทราบต่อไป ส่วนประเด็นพูดคุยหาเรือนั้น ยังไม่ได้รับข้อมูลจากฝ่ายเลขาฯ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายเคยมีพูดคุยกัน เเละแน่นอนว่าต้องมีเรื่องของประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมของทั้งสองฝ่าย

พร้อมย้ำว่า การประชุมดังกล่าวนั้น จะสำเร็จหรือไม่เกิดผลสำเร็จอยู่ที่ฝ่ายกัมพูชา เพราะว่าสถานการณ์ที่ผ่านมานั้นทางฝ่ายกัมพูชาเป็นคนริเริ่มในเรื่องของการปะทุให้เกิดขึ้น ฉะนั้นจะต้องจบที่ทางฝ่ายกัมพูชา กัมพูชาจะต้องเป็นคนที่แสดงความจริงใจและความจริงใจต่างๆ เหล่านั้นต้องมีความต่อเนื่องด้วย ตามที่ทางกระทรวงต่างประเทศ ได้พูดอยู่เสมอว่าจะต้องมีความจริงใจและมีความต่อเนื่องไม่ใช่เพียงแต่ว่าจริงใจด้วยวาจา แต่การปฏิบัติก็ต้องมีความจริงใจด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นขอวิ่งบอลไปทางฝ่ายกัมพูชา ในเรื่องของประเด็นต่างๆ เหล่านี้ต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนให้ประชาคมโลกได้รับทราบด้วยกัน

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2568 (เวลา 17.00 น.) สถานการณ์ที่สำคัญในแต่ละพื้นที่ดังนี้

พื้นที่สัตตะโสม-โดนตรวล-ซำแต  ฝ่ายกัมพูชาใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ โดรนพลีชีพ(FPV) และจรวด BM 21 โจมตีแนวการวางกำลังของฝ่ายเราเป็นระยะๆ กำลังพลปลอดภัย ปัจจุบันฝ่ายเราตรึงกำลังในพื้นที่ และเสริมความมั่นคง ณ ที่หมาย 

พื้นที่ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย-ภูมะเขือ ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะเป็นระยะๆ ฝ่ายกัมพูชาใช้เครื่องยิง ลูกระเบิด ปืนใหญ่ โดรนทิ้งระเบิด โดรนพลีชีพ และจรวด BM 21 ต่อแนวการวางกำลังของฝ่ายเรา  โดยฝ่ายเราตอบโต้ด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด โดรนทิ้งระเบิด และปืนใหญ่ ซึ่งสามารถทำลายที่หมายฝ่ายกัมพูชาได้หลายแห่ง

พื้นที่คนา ฝ่ายเราดำเนินการสถาปนาความมั่นคง ดัดแปลงที่มั่นให้แข็งแรง และตรึงกำลังในพื้นที่

พื้นที่ตาควาย ฝ่ายเราดำเนินกวาดล้างด้านหลังเนิน 350 สถาปนาความมั่นคง ณ ที่หมาย ฝ่ายกัมพูชายังคงยิงจรวด BM 21 เข้าใส่ฝ่ายเรา บริเวณเนิน 350 และตาควาย

พื้นที่ตาเมือน ฝ่ายกัมพูชา ทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ จรวดBM 21 ฝ่ายเราทำการยิงต่อคลังกระสุน และที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนตลอดแนววางกำลังของฝ่ายกัมพูชา
ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ “นักรบกล้า เนิน 350” ทั้งสองนาย ได้แก่ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน ณ วัดห้วยปอ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ณ วัดกลาง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกคนได้ร่วมตั้งจิตอันเป็นกุศลส่งดวงวิญญาณผู้กล้าให้สู่สุคติในสัมปรายภพ สถิต ณ สรวงสวรรค์อันผ่องใส ตลอดไป