ยายเฒ่าเผยวินาทีพายุถล่มบ้านพัง!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้เกิดลมพายุพัดถล่มในเขต 9 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ  ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ ร.ร.บ้านหนองอิไทย ต.สุขสวัสดิ์ อ.ไพรพึง จ.ศรีสะเกษ อาคารเรียนแบบ ศก 04  จำนวน 6 ห้องเรียนรวมทั้งห้องคอมพิวเตอร์และห้อง ผอ.ร.ร.โดนลมพายุพัดถล่มพังเสียหายทั้งหลัง  ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 26 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านหนองอิไทย  ต.สุขสวัสดิ์ อ.ไพรพึง จ.ศรีสะเกษ  นายธวัช  สุระบาล  ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย  นายฤทธา นันทพันธ์ ศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ  นายไพบูลย์  ศรีสุธรรม  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 พ.อ.วรากร  ธนยั่งยืน  รอง ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดศรีสะเกษและ นายบุญประสงค์  นวลสายย์  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ  ได้นำเอาถุงยังชีพของเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ จำนวน 38 ถุง ไปมอบให้แก่ชาวบ้านหนองอิไทย ที่ประสบวาตภัยลมพัดบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จากนั้น  ได้ทำการตรวจสอบสภาพความเสียหายของอาคารเรียนที่โดนลมพายุพัดพังทั้งหลัง  ซึ่งพบว่าอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนได้รับความเสียหายจำนวนมาก  จากนั้น  คณะของ ผวจ.ศรีสะเกษได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 4 บ้านหนองอิไทย ซึ่งเป็นบ้านของนางล้วน รุ่งแสง อายุ  61 ปี  เพื่อไปเยี่ยมและมอบถุงยังชีพเนื่องจากบ้านพัก คอกเลี้ยงสัตว์และฉางข้าวโดนลมพัดพังเสียหายทั้งหมด

นายธวัช   สุระบาล  ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  ในวันนี้ ตนพร้อมด้วย ศึกษาธิการจังหวัด ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 และรอง ผบ.กองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ศรีสะเกษและคณะหัวหน้าส่วนราชการได้มาเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมทั้งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของชาวบ้านที่ถูกลมพายุพัดบ้านพัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร.ร.บ้านหนองอิไทย ถูกลมพายุพัดอาคารเรียนเสียหายทั้งหลัง  ซึ่งตนได้สั่งการให้สำรวจความเสียหายแล้ว จะต้องใช้งบประมาณในการซ่อมแซม จำนวนประมาณ 1,600,000 บาท เพื่อเร่งซ่อมแซมให้เด็กได้มีที่นั่งเรียนหนังสือ  สำหรับสถานการณ์ การเกิดเหตุวาตภัยในจังหวัดศรีสะเกษตั้งแต่ 25 เม.ย.2561 เป็นต้นมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 9 อำเภอ 12 ตำบล  20 หมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวนทั้งสิ้น  136 ครัวเรือน โดยในเขต อ.ไพรบึง  มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน  37  หลัง ร.ร.บ้านหนองอิไทย 1 แห่งและฟ้าผ่าวัวตาย 1 ตัว  ซึ่งตนได้สั่งการให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการอย่างเร่งด่วนแล้ว  อีกทั้งตนได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และประสานกับกำลังทหารในพื้นที่ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อจัดทีมออกซ่อมแซมบ้านเรือนชาวบ้านที่ประสบวาตภัยอีกด้วย

ทางด้าน นางล้วน  รุ่งแสง  อายุ  61 ปี  ได้เปิดเผยถึงช่วงวินาทีที่เกิดลมพายุพัดถล่มบ้านเรือนของตนว่า  ขณะที่เกิดเหตุตนกับครอบครัวนั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน  ทันใดนั้น ได้เกิดลมพายุหมุนมาอย่างรุนแรงมาก จากนั้น  มีฝนตกลงมากอย่างหนักพร้อมทั้งลมกรรโชกอย่างรุนแรง  ทำให้ตนและครอบครัวตกใจมาก  พากันนั่งพนมมืออธิษฐานถึงพ่อแก้วแม่แก้วให้ช่วยเหลือด้วย  ปรากฏว่า  ลมได้พัดโหมกระหน่ำอย่างหนักนานประมาณ 30 นาทีทำให้หลังคาบ้าน  หลังคาคอกวัว  ฉางข้าว  ปลิวหายไปกับสายลม  ซึ่งตั้งแต่เกิดมาตนเพิ่งเคยพบกับพายุที่พัดรุนแรงมากแบบนี้ และทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น คณะของ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปที่วัดบ้านสะพุง ต.สะพุง อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้านที่ประสบวาตภัย จำนวน  80 ครัวเรือน  โดยมีนายปิยะพันธ์ นาคะเสถียร  นายอำเภอศรีรัตนะ  และนายโยธิน มุลกะกุล  นายก อบต.สะพุง และคณะให้การต้อนรับ จากนั้น ได้ไปตรวจสอบสภาพบ้านเรือนของชาวบ้านที่ถูกลมพายุพัดบ้านพัง  ซึ่งนายธวัช  กล่าวว่า  ในเขต อ.ศรีรัตนะมีบ้านเรือนในเขต  ม.7 ต.ตูม  ม.1,4,5,7,9,10,11 ต.สะพุง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 78 หลัง โรงเรือน 2 หลัง โรงเรือนล้มทับกระบือตาย 1 ตัว  และบ้านที่เสียหายทั้งหลัง จำนวน 10 หลัง  ซึ่งตนได้สั่งการให้นายอำเภอศรีรัตนะและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบวาตภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว