ผู้ใหญ่บ้านเดินเท้าขอความเป็นธรรม

หลังทำงานช่วยเหลือลูกบ้านแล้วโดนฟ้องศาล

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.61นายพิเชษ ศาสตรประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เดินเท้าขอความเป็นธรรม หลังทำงานช่วยเหลือลูกบ้านแล้วโดนฟ้องศาลดำเนินคดีอาญา โดยเริ่มเดินจากวัดประชุมราษฎร์ คลองหก ถนนสายลำลูกกา ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ไปยังกระทรวงมหาดไทย เป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร จำนวน 2 วัน

โดยจะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 11 มิ.ย.61 ซึ่งนายพิเชษ ศาสตรประเสริฐ เป็นผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมแหนบทองคำปี 55 ได้รับความเดือดร้อนขณะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ถูกผู้ประกอบการซึ่งอ้างว่าเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลบึงคำพร้อยฟ้องร้องดำเนินคดีศาลจังหวัดธัญบุรี โดยไม่ได้รับการเหลียวแลหรือช่วยเหลือจากหน่วยงานที่บังคับบัญชา

ด้าน นายพิเชษ ศาสตรประเสริฐ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 7 พ.ย. 60 มีชาวบ้านที่เดือดร้อนจากกลิ่นขยะได้ยื่นคำร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลำลูกกา ขอให้แก้ไขปัญหากองขยะหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 10 ซึ่งเป็นเขตติดต่อกัน ซึ่งกองขยะดังกล่าวส่งกลิ่นเหม็นและก่อเชื้อโรคหลายหมู่บ้านที่อยู่ติดกับขยะได้รับความเดือดร้อน จากนั้นศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลำลูกกาได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยแจ้งให้ อบต.บึงคำพร้อย และสาธารณสุขอำเภอลำลูกกา ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และรายงานผลให้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลำลูกกาภายใน 15 วัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ปลัดอำเภอ ฝ่ายอำนวยความเป็นธรรมอำเภอลำลูกกา แจ้งว่ามีชาวบ้านติดตามเรื่องร้องเรียนประกอบกับหน่วยงานที่แจ้งให้ดำเนินการ ซึ่งไม่ได้รายงานผลให้ทราบ จึงเห็นควรแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น เพื่อส่งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลำลูกกาเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการ

ตนเองซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากกองขยะดังกล่าว ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลำลูกกา ร่วมกับ ทหาร สาธารณสุขอำเภอลำลูกกา ปลัดอำเภอ ฝ่ายอำนวยความเป็นธรรมอำเภอลำลูกกา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ก.พ.61 ตนเองได้ถูกพนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรีฟ้อง ข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของเพื่อน คดีหมายเลขดำที่ 968/2561 ตกเป็นจำเลยในคดีดังกล่าว ทั้งที่ได้เข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการพิจารณาตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ตนเองไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากผู้บังคับบัญชาหรือชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องต่อสู้โดยลำพังและใช้ทนายความขอแรงที่ศาลตั้งให้ในการสู้คดีดังกล่าว

ตนเองรู้สึกเจ็บปวดเสียใจในการทำงานปฏิบัติหน้าที่ ที่ตนเองรัก ไม่เคยคิดเลยว่าการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อิทธิพลของนักการเมืองท้องถิ่น ร่วมกับนายทุน และเจ้าหน้าที่รัฐบางคน การที่ตนเองทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาจะได้รับความเดือดร้อนแบบนี้ จึงได้เดินเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านตัวเล็ก ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ให้มีกำลังใจต่อสู้เพื่อชาวบ้านและต่อสู้เพื่อความถูกต้องต่อไป.