มติเอกฉันท์ เพิกถอนที่ดินสาธารณะ

“คำชะโนด”จัดระเบียบให้ยั่งยืน

เป็นอันว่า คำชะโนด อ.บ้านดุง  พื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์วังนาคินปู่ศรีสุทโธก็ได้เพิกถอนที่ดินสาธารณะเป็นไปตามแผนงานการจัดระเบียบ “วังนาคินทร์คำชะโนด” ประชาชนได้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียที สภอบต.บ้านม่วงมีมติเอกฉันท์ผ่านฉลุย25ต่อ0

เพิกถอนที่ดินคำชะโนด จัดระเบียบยั่งยืน โดยวันนี้ (27 ก.ย.61) ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. บ้านม่วง อ.บ้านดุง นายไพฑูรย์ เมืองแวง ประธานสภา อบต.บ้านม่วง เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ครั้งที่ 3/2561 เพื่อพิจารณาการขออนุญาตใช้ประโยชน์ และการขอถอนสภาพที่ดินสาธารณะประโยชน์ พื้นที่คำชะโนด ต.บ้านมวง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยมีสมาชิก อบต.บ้านม่วง มีนายอภิชัย พัฒนา นายก อบต.บ้านม่วง นำสมาชิกสภาฯเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 25 คน

โดยนายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี นำนายวีระวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง ตัวแทนที่ดิน จ.อุดรธานี หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง กรรมการบริหารคำชะโนด และ กำนัน ต.บ้านม่วง มาร่วมชี้แจงและตอบข้อสงสัยต่อสภา อบต.บ้านม่วง ว่า การขอใช้ที่ดินที่ต้องเพิกถอนที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่คำชะโนด เป็นส่วนสำคัญของแผนงานการจัดระเบียบ “วังนาคินทร์คำชะโนด” ประชาชนได้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยไม่รู้ว่าต้องขออนุญาตก่อน แต่เมื่อมีประชาชนเลื่อมใสศรัทธาต่อ เจ้าปู่ศรีสุทโธ เจ้าย่าศรีปทุมมา จำนวนมากเดินทางมาจากทั่วประเทศ จึงจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย   

นายวีระวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง ชี้แจงว่า ขอเพิกถอนและใช้ประโยชน์ 2 แปลง แปลงแรก เพื่อจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เชิงนิเวศวิทยาคำชะโนด เป็นประโยชน์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมป่าคำชะโนด ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื้อที่ 71-1-59 ไร่ ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ประโยชน์อยู่ก่อนแล้ว , แปลงที่ 2 เพื่อสร้างศูนย์ส่งเสริมประพุทธศาสนาสิริสุทโธ(คำชะโนด)  เป็นประโยชน์กับพระพุทธศาสนา เนื้อที่ 15-0-15 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักปฏิบัติธรรม รวม 86-1-74 ไร่ โดยไม่รวมพื้นที่ในเกาะคำชะโนดและพื้นที่น้ำทั้งหมด ซึ่งวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา มีการประชุมประชาคมราษฎรที่มีมติให้ใช้ที่สาธารณะประโยชน์ไปแล้ว

ทั้งนี้มีสมาชิกสภา อบต.บ้านม่วง ได้ตั้งข้อสอบถามในหลายประเด็น อาทิ ทำไมปล่อยปะละเลยมานาน จนเกิดการก่อสร้างอาคารถาวร ศาสนาสถาน และอื่นๆมากมาย การดำเนินการที่ผ่านมาจะมีความผิดหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เพราะความเข้าใจผิด รวมทั้งความไม่รู้ ทางราชการจึงอยากจะให้เกิดความถูกต้อง ก็ต้องใช้ทั้งแนวทางรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์มาช่วย รวมทั้งสอบถามหากเพิกถอนที่ดินสาธารณะประโยชน์ จะต้องเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์หรือไม่ เพราะธนารักษ์คงต้องมีการเรียกเก็บค่าค่าเช่าที่ดิน โดยนายธนพลฯ ยืนยันว่า ที่ดินจะเป็นของชาวบ้านบ้านม่วง ที่ต้องมาร่วมกันดูแล  

โดยก่อนจะมีการโหวตเสียง มีสมาชิกแจ้งประธาน จะขอให้โหวดครั้งเดียว รวมพื้นที่ทั้ง 86 ไร่ ขณะที่มีสมาชิกบางคน จะขอให้มีการโหวตแบ่งที่ละแปลง ทำให้ประธานสภาฯ ต้องให้สมาชิกพัก เพื่อปรึกษากันว่า จะทำการโหวตแบบไหน หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที ประธานจึงเรียกสมาชิก กลับเข้าประชุมอีกครั้ง และมีมติประชุมโหวตครั้งเดียวรวมทั้ง 2 แปลง ผลปรากฏสภาฯ โหวตให้ความเห็นชอบ 25 ต่อ 0 คะแนน

ทางด้าน นายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากมีมติโหวตของทางท้องถิ่นแล้ว หลังจากนี้ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ในการขอเพิกถอนที่ดินสาธารณะประโยชน์ 86 ไร่ โดยทาง อบต.ต้องส่งมติรายงานการประชุมสภาฯวันนี้ ให้ทางอำเภอ เพื่อส่งต่อให้กับทาง จ.อุดรธานี และจากนั้นจังหวัด จะส่งเรื่องต่อไปกรมที่ดิน และส่งต่อยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ ครม.อนุมัติ ก่อนจะประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการอีกระยะหนึ่ง หลังจากนั้นการจัดระเบียบคำชะโนด หรือการจะเข้ามาพัฒนาคำชะโนดอย่างยั่งยืน จะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมได้มากที่สุด เพราะทุกอย่างทุกส่วนมีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ชาวบ้านก็บริหารกันเหมือนเดิม โดยอยู่ในรูปคณะกรรมการฯที่เลือกกันขึ้นมา เพื่อให้เกิดประโยชน์ของทุกฝ่าย ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างแน่นอน