วันจันทร์ ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 04:42 น.

ภูมิภาค

ท่องเที่ยวชมวัดคมนียเขต (วัดคึกคัก) เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน จ.พังงา-ภูเก็ต

วันพุธ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 12.28 น.

 

ท่องเที่ยวชมวัดคมนียเขต (วัดคึกคัก)
เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน จ.พังงา-ภูเก็ต


ท่องเที่ยวชมวัดคมนียเขต หรือ วัดคึกคัก เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านในเขตจังหวัดพังงา ภูเก็ต และใกล้เคียงเป็นยอดพระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาอาคมและไสยเวทแห่งเมืองตะกั่วป่า ท่านมีบุญญาธิการและกฤตยาคมสูงส่ง กุฏิของท่านจะมีการก่อกองไฟตลอดเวลา เพื่อผิงไฟ เป็นที่แปลกตาของผู้มาเยี่ยมเยือนพร้อมชมความสวยงามจิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถเล่าเรื่องร้าวความหลัง

 


 

ที่วัดคมนียเขต หรือวัดคึกคัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวทำบุญ ซึ่งสมัยก่อนเรียกกันว่า “ บ้านคุกคัก” ตั้งชื่อมาจากการฟังเสียงของน้ำ ที่ไหลมากระทบกับโขดหินในลำคลอง “คุกคัก คุกคัก” ก่อนที่นายร่วง บัวแก้ว ครูใหญ่โรงเรียนวัดคุกคักคนที่ 7 ได้เสนอขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นตำบลคึกคักต่อในอำเภอ “ขุนสีมาสิงห์สวัสดิ์” และเป็นวัดคึกคัก ตามชื่อหมู่บ้าน ตำบล ตั้งแต่นั้นมาก่อนจะเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “วัดคมนียเขต” ภูมิประเทศสวยงามมีสายน้ำล้อมรอบเป็นขอบเขตมีพระครูพิพัฒนคมนียเขต (ภราดร สนฺติกโร) ระหว่าง พ.ศ. 2546 - ปัจจุบัน”

 

 

สำหรับประวัติหลวงพ่อแหวง อาภากโร หรือ อาภาคโร ซึ่งเป็น อดีตเจ้าอาวาสวัดคมนียเขต หรือ วัดคึกคัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านในเขตจังหวัดพังงา ภูเก็ต และใกล้เคียง นอกจากที่ท่านได้ละสังขารไปเมื่อปี 2511 พบว่าสังขารของท่าน ยังไม่เน่าเปื่อยจนถึงปัจจุบันจานกลายเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนเป็นจำนวนมาก จริยาวัตรท่านเป็นพระที่อยู่อย่างเรียบง่าย มีความเมตตา ต่อทุกคน นอกจากนี้ท่านยังพูดเป็นไปตามปาก เราเรียกกันวาจาสิทธิ์ เป็นยอดพระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาอาคมและไสยเวทแห่งเมืองตะกั่วป่า ท่านมีบุญญาธิการและกฤตยาคมสูงส่ง กุฏิของท่านจะมีการก่อกองไฟตลอดเวลา เพื่อผิงไฟ เป็นที่แปลกตาของผู้มาเยี่ยมเยือน

 

 

โดยภายในอุโบสถหลังใหม่ที่เพิ่มสร้างได้เล่าเรื่องร้าวประวัติความเป็นมาที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นที่รู้จักของชนหลายเชื้อชาติ ซึ่งตำบลคึกคัก มีเรื่องเล่ากันว่าบริเวณตำบลคึกคัก เมื่อครั้งพระสังข์แข่งตีคลีกัยพระอินทร์ ซึ่งแปลงกายมาตีคลีขนาดใหญ่ตกอยู่ชาวบ้านผ่านไปมาได้ยินเสียงคลีกลิ้งดัง "กุกกัก" จนเป็นที่โจษขานและเรียกบริเวนี้ว่า "คุกคัก" มีอยู่ครั้งหนึ่งมีผู้ตนพากันมาดูลูกคลี ก็จะกลิ้งใส่คนแต่ไม่ทำร้าย ต่อมามีผู้คนพบลายแทงว่าลูกคลีนี้มีสมบัติมหาศาล ถ้าต้องการให้ผู้หญิงพรหมจารีย์เปลือยกายขวางทางลูกคลีจะแตกออกเป็นทองคำ แต่พอจะเข้าไปหยิบทองนั้นก็หายไปในดินจนหมด บริเวณดังกล่าวถูกเรียกว่า "คุกคัก" ต่อมาได้เปลี่ยนใหม่เนื่องจากคำเดิมไม่ดีเปลี่ยนเป็น "คึกคัก" วัดคึกคัก

 


ในปัจจุบันรู้จักกันในชื่อว่า วัดคมนียเขต สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2452 โดยมี พระครูประสาทประกฤตพรต เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการ เดิมชื่อว่า"วัดคุกคัก" ต่อมา พ.ศ. 2482 เปลี่ยนชื่อเป็น วัดคมนียเขต ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2471 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมเนกธัมมะในเดือนธันวาคมของทุกปี ภายในวัดมีปูชนียวัตถุหลวงพ่อแหวง อาภากโร อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชน ปัจจุบันมี พระครูพิพัฒน์คมนียเขต ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

 


 


การเดินทางวัดคมนียเขต หรือวัดคึกคัก ตั้งอยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษมช่วงเขาหลัก โดยเดินทางจากตัวอำเภอตะกั่วป่ามาทางเส้นถนนเพชรเกษมเพื่อไปจังหวัดภูเก็ต จากอำเภอตะกั่วป่าประมาณ 17กิโลเมตร

หน้าแรก » ภูมิภาค